กายวิภาคสาตร์และสรีระวิทยา หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 255ชั่วโมงสำหรับคนตาบอด ตอนที่2 ระบบกระดูก และระบบประสาท

 1.มนุษย์เมื่อแรกเกิดจะมีกระดูกประมาณ 270ชิ้น  แต่ร่างกายของมนุษย์ที่เจริญเติบโตเต็มที่จะประกอบด้วยกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น เนื่องจากระดูกหลายๆชิ้นจะต่อกันเป็นชิ้นเดียวกัน

2.แต่แพทย์แผนไทยว่า กระดูกมี 300ท่อน

3.แบ่งกระดูกตามรูปร่างหรือลักษณะภายนอกจะแบ่งได้เป็น4ชนิด คือ กระดูกยาว กระดูกสั้น กระดูกแบน และกระดูกรูปแปลก

4.กระดูกยาวได้แก่ กระดูกแขน กระดูกขา

5.กระดูกสั้น ได้แก่ กระดูกข้อมือ กระดูกข้อเท้า

6.กระดูกแบน ได้แก่ กระดูกเชิงกราน กระดูกสะบัก กระดูกกระโหลกศรีษะ กระดูกซี่โครง

7.กระดูกรูปแปลก ได้แก่ เช่น กระดูกกระโหลกศรีษะบางชิ้น

8.แบ่งกระดูกตามหน้าที่และลักษณะการใช้งาน จะแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ กระดูกแข็ง

กระดูกอ่อน ข้อต่อและเอ็น

9.กระดูกแข็ง แบ่งเป็น กระดูกแกน 80 ชิ้น และ กระดูก ระยางค์ 126ชิ้น

10.กระดูกแกน ได้แก่ กระดูกกระโหลกศรีษะ29ชิ้น  กระดูกสันหลัง 26 ชิ้น กระดูกซี่โครง 25ชิ้น

11.กระดูกสันหลังแบ่งเป็น กระดูกคอ 7ชิ้น กระดูกสันหลังช่วงอก 12ชิ้น กระดูกสันหลังช่วงเอว 5 ชิ้น  กระดูกกระเบนเหน็บ 1ชิ้น และกระดูกก้นกบ 1ชิ้น

12.กระดูกกระเบนเหน็บมี1ชิ้น ตอนเป็นตัวอ่อนมี 5ชิ้น

13.กระดูกก้นกบ มี 1ชิ้น ตอนเป็นตัวอ่อนมี 4ชิ้น

14.กระดูกซี่โครง 25ชิ้น เป็นซี่โครง12คู่ หรือ24ชิ้น และและเป็นกระดูกอกอีก1ชิ้น

15.กระดูก ระยางค์ 126 ชิ้นประกอบด้วย กระดูกไหล่ กระดูกไหปลาร้า กระดูกสะบัก กระดูกแขน มือ กระดูกเชิงกราน กระดูกขาและเท้า

16.หน้าที่ของกระดูกแข็ง   -เป็นโครงสร้างหลักที่ทำให้ร่างกายคงรูปอยู่ได้  -เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อลาย และเอ็นและพังผืด -ช่วยปกป้องอวัยวะสำคัญ เช่น กระโหลกปกป้องสมอง ซี่โครงปกป้องปอดและหัวใจ กระดูกสันหลังปกป้องไขสันหลัง -ไขกระดูกมีหน้าที่ผลิตเม็ดเลือด -กระดูกแข็งเป็นที่สะสมแคลเซี่ยม และฟอสเฟตของร่างกาย

17.กระดูกอ่อน เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดพิเศษ ลักษณะค่อนข้างแข็งแต่ยืดหยุ่นได้ สามารถเจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว และแข็งแรงพอที่จะประกอบเป็นโครงร่างของร่างกาย กระดูกอ่อนส่วนมากจะมีอยู่ที่บริเวณข้อต่อ ซึ่งจะทำหน้าที่ลดการเสียดสีและสึกกร่อนของข้อต่อขณะเคลื่อนไหว ภายในกระดูกอ่อนจะไม่มีเส้นเลือด เส้นประสาทและท่อน้ำเหลืองต่อเข้ามาเลี้ยงโดยตรง

18.หน้าที่ของกระดูกอ่อนมีดังนี้  ช่วยรับและลดแรงกระแทกในข้อต่อ -ช่วยป้องกันการตีบหรือแฟบของหลอดลม -ช่วยเพิ่มความยาวให้กระดูก -เป็นตัวบ่งชี้ภาวะขาดสารอาหาร เช่นถ้าขาดโปรตีนกระดูกจะบางลงอย่างลดเร็ว หรือร่างกายจะหยุดสร้างเซลกระดูกเมื่อขาดวิตตามินซี

19.ข้อต่อ คือส่วนที่ต่อเชื่อมและยึดกระดูกสองชิ้นไว้ด้วยกัน

20.บริเวณข้อต่อจะมีเส้นใยกระดูกอ่อนมารองรับเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกเสียดสีกันและป้องกันการสึกกร่อน

21.ข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนักมากหรือต้องทำงานหนักจะมีโพรงซึ่งมีน้ำเลี้ยงหล่อลื่นอยู่ เช่น หัวเข่า และหัวไหล่

22.บนข้อต่อจะมีพังผืดห่อหุ้ม และมีกล้ามเนื้อมาหุ้มปิดทับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สามารถขยับเคลื่อนไหวได้

23.การเคลื่อนที่และการเคลื่อนไหวของข้อต่อแบ่งเป็น การงอเข้า การเหยียดออก การกางออก การหุบเข้า การหมุนบนแกน การหมุนแบบบิด การคว่ำและการหงายมือ 

24.ความผิดปกติของข้อต่อและกระดูก ที่มักพบเสมอ คือ การซ้นหรือแพลง ข้อต่อเคลื่อน ข้อต่ออักเสบ และกระดูกหัก

25.ระบบประสาทมีหน้าที่หลักในการควบคุมและประสานการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย ระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาทส่วนปลายและระบบประสาทอัตโนมัต

26.ระบบประสาทส่วนกลางประกอบด้วย สมองใหญ่ สมองน้อย ก้านสมอง ไขสันหลัง เยื่อหุ้มสมอง น้ำเลี้ยงสมองและไขสันหลัง

27.สมองใหญ่ เป็นก้อนกลมรีอยู่กลางกระโหลกศรีษะ แบ่งเป็น2ซีกคือซีกซ้ายและซีกขวา และแต่ละซีกจะแบ่งออกเป็น 5กลีบ

28.กลีบหน้าผาก ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ความนึกคิด สติปัญญา การพูด และการเคลื่อนไหวของร่างกาย

29.กลีบบนกระหม่อม ทำหน้าที่รับความรู้สึกทั้ง ความร้อน ความเย็น ความเจ็บปวด การสัมผัส การบีบคลำ การเห็นและการได้ยิน

30.กลีบท้ายทอย ทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็น การแปรภาพ

31.กลีบขมับ ทำหน้าที่เกี่ยวกับหูการได้ยินเสียง

32.กลีบในสมอง หน้าที่หลักไม่บ่งชัด เข้าใจว่าเป็นส่วนประสานงานและรับความรู้สึกจากอวัยวะภายใน

33.สมองน้อย เป็นก้อน ขอบเป็นหยักคล้ายเปลือกหอยแครงอยู่ใต้สมอง มีหน้าที่ ช่วยการทรงตัว ช่วยควบคุมการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และควบคุมประสาทการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ

34.ก้านสมอง ทำหน้าที่ควบคุมการหายใจ การเต้นของหัวใจการบีบตัวของหลอดเลือด และควบคุมการตอบสนองโดยเฉียบพลันเกี่ยวกับการไอ การจาม การอาเจียน การกระพริบตา เป็นต้น

35.ไขสันหลัง เป็นส่วนซึ่งต่อจากก้านสมองยาวลงมาตามกระดูกสันหลังจนถึงข้อต่อระหว่างกระดูกสันหลังส่วนเอวชิ้นที่1กับ2ไขสันหลังมีความยาวประมาณ 18นิ้ว มีหน้าที่เป็นทางเชื่อมเพื่อรับกระแสความรู้สึกและส่งต่อไปยังสมอง รวมถึงส่งกระแสประสาทสั่งการจากสมองไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย

36.เยื้อหุ้มสมอง เป็นเนื้อเยื่อซึ่งห่อหุ้มเนื้อสมองและไขสันหลัง ส่วนที่ห่อหุ้มสมอง เรียกว่าเยื่อหุ้มสมอง ส่วนที่ห่อหุ้มไขสันหลัง เรียกว่าเยื่อหุ้มไขสันหลัง

37.น้ำเลี้ยงสมองและไขสันหลัง ลักษณะคล้ายน้ำใสๆ ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง เป็นแหล่งสะสมอาหารให้กับเนื้อเยื่อประสาท น้ำเลี้ยงนี้จะคั่นอยู่ระหว่างเยื่อหุ้มสมองชั้นในและชั้นกลาง

38.ระบบประสาทส่วนปลาย เป็นระบบประสาทซึ่งเชื่อมต่อสมองและไขสันหลังไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ประกอบด้วย เส้นประสาทสมอง และเส้นประสาทไขสันหลัง

39.เส้นประสาทสมอง มีทั้งหมด 12คู่ ทอดจากพื้นล่างของสมองผ่านออกจากช่องกระโหลกศรีษะไปยังอวัยวะที่เกี่ยวข้อง เส้นประสาทสมองส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ในการควบคุมการรับความรู้สึก นอกจากนั้นบางส่วนยังมีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว 

40.เส้นประสาททั้ง 12คู่มีหน้าที่ดังนี้ 

คู่ที่1 ควบคุมการดมกลิ่น

คู่ที่2 ควบคุมการเห็นภาพ

คู่ที่3 คู่ที่4และคู่ที่6 ควบคุมกล้ามเนื้อลูกตา

คู่ที่5 ควบคุมการรับความรู้สึกบนใบหน้า และการเคี้ยวอาหาร

คู่ที่7 ควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าและการรับรส

คู่ที่8 ควบคุมการทรงตัว

คู่ที่9 ควบคุมกล่องเสียง คอหอย และหลอดลม

คู่ที่10ควบคุมอวัยวะในช่องอก และช่องท้อง เช่น หัวใจ กระเพาะอาหาร

คู่ที่11 ควบคุมกล้ามเนื้อคอและสะบัก

คู่ที่12 ควบคุมลิ้น

41.เส้นประสาทไขสันหลัง ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายมีทั้งหมด 31คู่ กระจายอยู่ทั่วลำตัว แบ่งเป็น 5 ระดับคือ

 เส้นประสาทระดับคอ 8 คู่

 เส้นประสาทระดับอก 12คู่

 เส้นประสาทระดับเอว 5คู่

 เส้นประสาทระดับกระเบนเหน็บ 5คู่

42.ระบบประสาทอัตโนมัติ เป็นระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน เช่นการหดและขยายตัวของหลอดเลือด การขับเหงื่อ การเต้นของหัวใจ การขยายตัวของหหลอดลม 

43.วิถีประสาทของระบบประสาทอัตโนมัติแบ่งได้เป็น2ระบบคือ ซิมพาเธติก และพาราซิมพาเธติก

44.ระบบประสาทซิมพาเธติก มีหน้าที่กระตุ้นทางอารมณ์ ให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาในการที่จะต่อสู้ หรือหลบหนี กระตุ้นให้เกิดความเครียด ใจสั่น ความดันโลหิตสูง รูม่านตาขยายกว้างขึ้น

45.ระบบประสาทพาราซิมพาเธติก จะมีหน้าที่ตรงกันข้ามระบบประสาทซิมพาเธติก คือ ลดความตึงเครียด ลดความดันโลหิต รูม่านตาเล็กลง






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนวดไทยบำบัด(นวดรักษา) 14โรค เอกสารจัดทำเพื่อผู้พิการทางสายตาเพื่อการอ่านโดยใช้แอพพลิเคชั่นเสียง

การนวดพื้นฐาน 95ท่า หนังสือผ่านแอพพิเคชั่นเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา

ความพร้อมกับการสอบปฏิบัตินวดไทยสิบสี่อาการ กลุ่มอาการที่สี่