การนวดไทยบำบัด(นวดรักษา) 14โรค เอกสารจัดทำเพื่อผู้พิการทางสายตาเพื่อการอ่านโดยใช้แอพพลิเคชั่นเสียง

 ๑.การนวดแก้ปวดขา เข่า

อาการปวดขา ปวดเข่า

เจ็บ ปวด ขัด เวลางอหรือเหยียดข้อเข่า เวลาลุกขึ้นยืนหรือเวลาเดิน หรือเหยียดขาได้ไม่เต็มที่เวลายืนหรือเดิน ทำให้เดินลำบาก ขึ้นลงบันไดลำบาก หรือปวดตื้อๆโดยเฉพาะที่บริเวณต้นขา น่อง หน้าแข้ง หรือเอ็นร้อยหวาย

จุดบังคับมี

๑.แนวขาด้านนอกบนและล่างมีสามแนว

๒.แนวขาด้านหลัง บนและล่างมีสองแนว

๓.แนวขาด้านในบนและล่างมีสามแนว

๔.แนวฝ่าเท้าหนึ่งแนว

๕.จุดนวดด้านหน้าเข่า มี๘จุด(เหนือสาม ข้างสอง ใต้สาม)

๖.จุดนวดด้านหลังเข่ามีสี่จุด (เหนือสอง กลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง)

วิธีนวด

    ๑คนไข้นอนหงาย เหยียดขา จับปลายเท้าตั้งขึ้น  ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านในหนึ่ง(ช่วงแข้ง)

    ๒งอเข่าของคนไข้ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดตามแนวขาด้านในหนึ่ง(ช่วงต้นขา)

    ๓ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกหนึ่ง(ช่วงแข้ง)โดยวางนิ้วให้ขนานกับแนวกระดูกหน้าแข้ง

    ๔ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง(ช่วงแข้ง)

    ๕ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสาม (ช่วงแข้ง)

    ๖ใช้ส้นมือซ้อนกัน กดจุดแนวต้นขาด้านนอกหนึ่ง(ช่วงต้นขา)

    ๗ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดแนวขาด้านนอกสอง (ช่วงต้นขา)

    ๘ใช้หัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสาม(ช่วงต้นขา)

    ๙ใช้ส้นมือทั้งสอง กดจุเหนือหัวเข่า

    ๑๐ ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดเหนือข้างเข่าด้านนอก

    ๑๑ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดข้างเข่าด้านนอก บริเวณร่องระหว่างกระดูกขาท่อนบนและท่อนล่าง

    ๑๒ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดใต้สะบ้าด้านนอก

    ๑๓ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดเหนือข้างเข่าด้านใน

    ๑๔ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดข้างเข่าด้านในบริเวณร่องระหว่างกระดูกขาท่อนและท่อนล่าง

    ๑๕ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดใต้สะบ้า(ด้านใน)

    ๑๖ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดใต้สะบ้า(ตรงกลาง)

    ๑๗ใช้ศอกกดจุดแนวฝ่าเท้าหนึ่ง โดยเน้นจุดสุดท้ายก่อนถึงส้นเท้า

    ๑๘ใข้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดเหนือพับเข่าหนึ่งฝ่ามือ

    ๑๙ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดเหนือพับเข่าสองนิ้วมือ

๒๐ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดกลางพับเข่า มืออีกข้างจับข้อเท้ายกขึ้นประมาณสี่สิบห้าองศา

๒๑ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดใต้พับเข่าก่อนถึงข้อพับเข่าสองนิ้วมือ

๒๒ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังหนึ่ง

๒๓ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังสอง(ช่วงแข้ง)

๒๔ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังสอง(ช่วงต้นขา)

๒๕ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังหนึ่ง(กึ่งกลางต้นขา)

๒๖ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังหนึ่ง(กึ่งกลางน่อง)จากเอ็นร้อยหวายขึ้นไปจนถึงใต้พับเข่า

๒๗ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังหนึ่ง(กึ่งกลางต้นขา)



๒.การนวดแก้ปวดหลัง

อาการปวดหลัง

ปวดหลังส่วนล่าง  บริเวณกระเบนเหน็บ อาจเกิดขึ้นฉับพลัน หรือค่อยเป็นทีละน้อย อาจปวดตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะในท่าบางท่า การไอ จาม หรือบิดเอี้ยวตัว อาจทำให้ปวดมากขึ้นได้

ถ้ามีอาการน้อยกว่า ๔สัปดาห์ ถือว่า เป็นแบบเฉียบพลัน

ถ้ามีอาการ๔-๑๒สัปดาห์ ถือว่า เป็นแบบกึ่งเฉียบพลัน

ถ้ามีอาการนานกว่า ๑๒สัปดาห์ ถือว่า เป็นแบบเรื้อรัง

จุดบังคับมี

 ๑.หลังสองแนว

๒.เกลียวข้างสามจุด

๓.ท้าวสะเอวหนึ่งจุด

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวหลังหนึ่ง จากระดับเดียวกับกลางสะบักลงมาถึงเหนือบั้นเอว

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวหลังสอง จากระดับเดียวกับกลางสะบักลงมาถึงเหนือบั้นเอว

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวเกลียวข้าง(มีสามจุด)

๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างที่อยู่ใกล้ตัวคนไข้ กดจุดท้าวสะเอว


๓.การนวดแก้ปวดไหล่ แขน ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้วมือ

อาการ

 -ปวดขัดที่หัวไหล่ เจ็บเวลาเคลื่อนไหวข้อไหล่

 -ปวดขัดข้อศอก งอและเหยียดข้อศอกไม่ได้เต็มที่ คว่ำและหงายมือไม่ได้เต็มที่ ทำงานบางอย่างไม่ได้ เช่น ถือกะทะผัดอาหาร บิดผ้าไม่สะดวกหรือไม่ได้

 -ปวดขัดข้อมือ เคลื่อนไหวข้อมือแล้วปวดในบางท่า

 -ปวดตึงนิ้วมือ ปวดขัดนิ้วมือ กำนิ้วมือได้ไม่สุด เหยียดนิ้วมือไม่ได้ งอนิ้วแล้วเหยียดคืนให้ตรงไม่ได้

 -ปวดฝ่ามือ เอ็นที่ฝ่ามือเป็นลำแข็ง ปวดเกร็งที่มือจากตะคริว

สาเหตุ...1.อิริยาบทในชีวิตประจำวันและท่าในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งห่อไหล่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันนานๆ นอนทับแขน นั่งขับรถแล้วเอื้อมหยิบของที่เบาะหลัง   2.ใช้แขนหรือมือทำงานหนักเกินไป   3.ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุการกระทบ กระแทกที่หัวไหล แขน ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้ว  4.ความเสื่อมของข้อไหล่ ข้อศอก ข้อมือ และข้อนิ้ว   5. ข้อไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้วมีการเคลื่อนไหวน้อย หลังได้รับบาดเจ็บ หรือจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง 

การซักถามและตรวจร่างกาย....1.ซักถามเรื่องพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดไหล่ แขน ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้วมือ    2.ให้ผู้ป่วยแสดงท่าทางที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วมีอาการปวด พร้อมทั้งใช้นิ้วชี้บอกจุดที่เจ็บปวด    3.ตรวจดูลักษณะของกระดูกสะบัก และกระดูกสันหลังช่วงอก ว่าบิดเบี้ยว หรือเอียง หรือไม่ รวมถึงความตึงตัวของกล้ามเนื้อรอบๆสะบักแล้วเปรียบเทียบด้านซ้ายและด้านขวา   4.ตรวจการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้วมือ    5.คลำกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อประเมินการบวม ความร้อน ความอ่อน ความแข็ง   6.หาตำแหน่งของจุดเจ็บบรเวณที่มีอาการปวด

ข้อห้ามในการนวด ถ้ามีอาการดังนี้ให้ส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัย...1ปวดไหล่ร่วมกับปวดเสียวที่แขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง  2.ข้อไหล่ผิดรูป หรือเคลื่อนไหวไม่ได้หลังได้รับบาดเจ็บอาจเกิดจากกระดูกแตกหัก หรือข้อไหล่เคลื่อน   3.หลังการผ่าตัด   4.มีอาการบวม แดง ร้อน บริเวณข้อไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อนิ้ว

ข้อควรระวังในการนวด...การดัดดึงคอ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการปวดร้าวเสียวชาลงไปที่แขน

ท่ากายบริหาร.... ท่าที่1ยืดหัวไหล่ด้านหลัง...นั่งขัดสมาธิ งอข้อศอกข้างหนึ่งให้มือวางบนบ่าด้านตรงข้าม ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับที่ข้อศอกไว้ หายใจเข้า แล้วหายใจออก พร้อมๆกับดึงข้อศอกเข้าหาตัวให้มากที่สุด  หายใจเข้าออกปกติสามถึงห้าครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้าง  ท่าที่2ยืดหัวไหล่ด้านข้าง....นั่งขัดสมาธิ งอข้อศอกข้างหนึ่งยกขึ้นไว้ทางด้านหลังของศีรษะ ใช้มืออีกข้างจับมือที่ยกไว้  หายใจเข้า แล้วหายใจออก พร้อมๆกับดึงมือลงมาให้มากที่สุด หายใจเข้าออกปกติสามถึงห้าครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้าง

การนวดตัวเอง....1.หงายฝ่ามือ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดบนฝ่ามือสามจุด  2.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดตามแนวแขนด้านหน้า จากเหนือกึ่งกลางข้อมือ(แนวนิ้วกลาง)ไปจนถึงขอบกล้ามเนื้อสามเหลี่ยม  3.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดตามแนวแขนด้านใน จากเหนือข้อมือ(แนวนิ้วก้อย)ไปจนถึงรักแร้  4.คว่ำมือใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง รวมกันกดจุดตามแนวแขนด้านหลัง จากเหนือข้อมือด้านหลัง(แนวนิ้วกลาง)ไปจนถึงกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมระดับรัดแร้   5.ใช้มือกำต้นแขน นิ้วหัวแม่มือกดจุด ใต้กระดูกไหปลาร้าใกล้ข้อไหล่

ข้อแนะนำหลังการนวด....1.ประคบความร้อนบริเวณที่ปวด ครั้งละยี่สิบนาที เช้า และเย็น    2.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของอาการปวดไหล่ แขน ข้อศอก ข้อมือ

 จุดและแนวนวดสำคัญ...๑.ฝ่ามือสามจุดและเหนือข้อมือหนึ่งจุด    ๒.ง่ามนิ้วหลังมือสี่จุด     ๓.ข้างสะบักหนึ่งแนว             ๔.แขนด้านหน้า บนและล่าง สองแนว (แนวนิ้วกลางและแนวนิ้วก้อย)           ๕.แขนด้านหลัง บนและล่าง สองแนว(แนวนิ้วกลางและแนวนิ้วนาง)

วิธีนวด(ให้ฝึกปฏิบัติและท่องไปพร้อมๆกัน)

วิธีนวดแก้ปวดไหล่ ปวดแขน

  ๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดฝ่ามือหนึ่ง โดยให้ปลายนิ้วหัวแม่มือที่กดชี้ไปทางนิ้วหัวแม่มือของคนไข้

  ๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดฝ่ามือสอง โดยให้ปลายนิ้วหัวแม่มือที่กดชี้ไปทางนิ้วกลางของคนไข้

  ๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดฝ่ามือหนึ่ง โดยให้ปลายนิ้วหัวแม่มือที่กดชี้ไปทางนิ้วก้อยของคนไข้

  ๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดแนวแขนด้านหน้าหนึ่ง

  ๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือวางเรียงกันกดจุดแนวแขนด้านหน้าหนึ่ง (ช่วงต้นแขน) และกดจุดสุดท้ายตรงร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยม

  ๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดแนวแขนด้านหน้าสอง

  ๗.คว่ำมือคนไข้ ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าสอง(ช่วงต้นแขน) และกดจุดสุดท้ายตรงเหนือรักแร้ด้านหน้า

๘.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดหลังมือหนึ่ง

 ๙.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดหลังมือสอง

 ๑๐.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดหลังมือสาม

 ๑๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดหลังมือสี่

 ๑๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหลังหนึ่ง

 ๑๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดสุดท้ายของแนวแขนด้านหลังหนึ่ง(ช่วงต้นแขน) ซึ่งเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมระดับเดียวกับรักแร้

 ๑๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหลังสอง

 ๑๕.ยกแขนคนไข้ขึ้น ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวแขนด้านหลังสอง(ช่วงต้นแขน)

๑๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดสุดท้ายของแนวแขนด้านหลังสอง ตรงเหนือรักแร้ทางด้านหลัง

 ๑๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดใต้รากขวัญ

 ๑๘.ไขว้แขนคนไข้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดข้างสะบัก

ท่านวดแก้ปวดข้อศอก

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าหนึ่ง ขึ้นไปถึงพับศอก

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าสอง ขึ้นไปถึงข้อศอก

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือวางเรียงกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าหนึ่ง(ช่วงต้นแขน) ตรงร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้าลงไปถึงข้อศอก

๔.คว่ำฝ่ามือคนไข้ ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดแนวแขนด้านหน้าสอง(ช่วงต้นแขน) ตรงเหนือรักแร้ด้านหน้าลงไปถึงข้อศอก

๕.ใช้มือข้างหนึ่งจับปลายแขนวางบริเวณหน้าอก ใช้นิ้วหัวแม่มืออีกข้างกดจุดข้อศอกด้านนอก นับหนึ่งถึงสิบ ทำสามรอบ

๖.ใช้มือข้างหนึ่งจับปลายแขนตั้งฉากกับพื้น ใช้นิ้วหัวแม่มืออีกข้าง กดจุดข้อศอกด้านใน นับหนึ่งถึงสิบ ทำสามรอบ

๗.ใช้มือข้างหนึ่งจับปลายแขนตั้งฉากกับพื้น ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมืออีกข้าง กดจุดข้อศอกด้านในและด้านนอกพร้อมกัน และโยกข้อศอกขึ้นลงทำสามรอบ

ท่านวดแก้ปวดข้อมือ

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าหนึ่ง เริ่มจากใต้ข้อพับศอกสองนิ้วมือไปถึงเหนือข้อมือ

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวแขนด้านหน้าสอง เริ่มจากใต้พับศอกสองนิ้วมือไปถึงเหนือข้อมือ

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดเหนือข้อมือสองนิ้วมือ

ท่านวดแก้ปวดข้อนิ้วมือ

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดฝ่ามือสอง โดยให้ปลายนิ้วหัวแม่มือที่กดชี้ไปทางนิ้วกลาง

๒.กำมือหลวมๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบนิ้วมือทางด้านบนและล่าง แล้วดึงนิ้วของคนไข้ทีละนิ้ว

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับนิ้วมือทางด้านบนและล่าง แล้วรูดจากโคนนิ้วมายังปลายนิ้ว ทำทุกนิ้ว

๔.กำมือหลวมๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบด้านข้างของนิ้วมือ แล้วรูดจากโคนนิ้วมายังปลายนิ้ว ทำทุกนิ้ว

๕.ใช้มือข้างหนึ่งจับฝ่ามือไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มืออีกข้างรีดนิ้วมือแต่ละนิ้ว จากจุดกึ่งกลางฝ่ามือ ผ่านโคนนิ้วไปปลายนิ้ว


๔.การนวดแก้ปวดคอ ศีรษะ

จุดบังคับ

๑.แนวบ่าหนึ่ง และแนวบ่าสอง

๒.แนวกำด้นจากจุดกำด้นไปถีงไรผมด้านหน้า  และจุดกำด้น และจุดใต้ไรผม

๓.แนวเหนือหู เริ่มจากแนวใบหูทั้งสองข้างไปจนถึงกลางกระหม่อม

๔.จุดจอมประสาท

๕.จุดหัวคิ้วทั้งสองข้าง

๖.จุดอุณาโลมอยู่กึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วทั้งสอง

๗.จุดหางคิ้ว และจุดหางตา

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวบ่าหนึ่ง ช่วงบ่า

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดแนวบ่าหนึ่งช่วงเกลียวคอ มืออีกข้างประคองหน้าผากคนไข้

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวบ่าสอง (ช่วงเหนือสะบัก)

๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวบ่าสอง ช่วงก้านคอ มืออีกข้างประคองหน้าผากคนไข้ไว้

๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดกำด้น มืออีกข้างประคองหน้าผากคนไข้ไว้

๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดใต้ไรผมทั้งสี่จุด มืออีกข้างประคองหน้าผากคนไข้ไว้

๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดคลึงจุดแนวข้างกำด้น จากจุดใต้ไรผมขึ้นไปถึงจุดไรผมด้านหน้า

๘.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดคลึงจุดแนวกำด้น จากจุดกำด้นขึ้นไปตามแนวกึ่งกลางศีรษะจนถึงจุดไรผมด้านหน้า

๙.ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้างกดคลึงจุดแนวหลังหูพร้อมกัน

๑๐.ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสอง กดจุดแนวเหนือหูพร้อมกัน

๑๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดจอมประสาท

๑๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดหัวคิ้ว มืออีกข้างประคองศีรษะคนไข้ไว้

๑๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวคิ้ว

๑๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดหางคิ้ว

๑๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดหางตา

๑๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดอุณาโลม

๑๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดคลึงจุดแนวกำด้นช่วงหน้าผาก จากจุดอุณาโลมขึ้นไปถึงไรผมด้านหน้า


๕.การนวดแก้เป็นลม

อาการ

อาการจะเกิดขึ้นรวดเร็ว รู้สึกมึนโคลงเคลง ตาพร่า หูอื้อ  วิงเวียน มือเท้าเย็น เหงื่อออก หน้าซีด ชีพจรเต้นเบา และมีความดันต่ำ

จุดบังคับ

๑.จุดร่องใต้จมูก และจุดลิ้นปี่

๒.จุดง่ามระหว่างนิ้วชี้และหัวแม่มือ

๓.แนวบ่าหนึ่ง

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดร่องใต้จมูก กดและคลึงเบาๆสักพัก นิ้วที่เหลือประคองไว้ใต้คาง

๒.คว่ำฝ่ามือคนไข้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดง่ามนิ้วระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือ เป็นเวลา สองถึงสามนาที หรือจนอาการดีขึ้น

๓.ใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ซ้อนกัน กดจุดใต้ลิ้นปี่ นับหนึ่งสองสาม ปล่อยแล้วต่อยเริ่มกดใหม่อีก (จุดนี้อาจจะไม่สะดวกกับคนไข้ที่เป็นผู้หญิง)

๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดแนวบ่าหนึ่ง เพื่อให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น

๖.การนวดแก้ตกหมอน

อาการ

มีอาการปวดกล้ามเนื้อคอข้างใดข้างหนึ่ง หรือปวดต้นคอถึงหัวไหล่  บางคนอาจปวดถึงสะบัก จะเอี้ยวคอหรือหันหน้าไม่สะดวก คอจะแข็ง บางคนก้มหรือเงยศีรษะไม่ได้ เวลาหันต้องหันไปทั้งตัว มักจะเกิดอาการปวดเมื่อเวลาจะหันหน้าหรือเอียงตั ว

สาเหตุ

๑.เกิดจากการนอนหนุนหมอนสูงหือแข็งเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอต้องยืดเป็นเวลานานๆ

๒.เกิดจากการยกของหนักๆ เป็นเวลานาน ซึ่งทำให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของแขน หัวไหล่ ต้นคอ หากผู้ที่กำลังยกหรือหิ้วของหนักอยู่นั้น หันหน้าหรือบิดคอไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างกระทันหัน จะทำให้คอเคล็ด หรือเกิดอาการคอตกหมอนได้

๓.เกิดจากการทำงานในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม เช่น การก้มคอนานๆ

๔.เกิดจากความเครียดวิตกกังวล ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อคอเกิดการเกร็งตัว

ข้อแนะนำ...นวดเสร็จแล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นจัดประคบบริเวณที่ปวด

ข้อควรระวัง ...ถ้ามีอาการปวดร้าวลงแขน ทำให้แขนชาไม่มีแรง  มักเกิดจากรากประสาทบริเวณคอถูกกดทับ กรณีนี้ห้ามทำการนวด ควรทำการส่งต่อคนไข้ไปโรงพยาบาล

จุดบังคับ

๑.แนวบ่าหนึ่ง และแนวบ่าสอง และแนวข้างสะบัก

๒.จุดบริเวณโค้งระหว่างคอกับบ่า(แก้อาการหันหน้าซ้ายขวาไม่ได้)

๓.จุดระดับเดียวกับปลายกระดูกสะบัก ห่างจากปลายสะบักสองนิ้วมือ(แก้อาการก้มเงยไม่ได้)

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวบ่าหนึ่ง

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวบ่าสอง

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดแนวข้างสะบัก โดยกดลงไปแลัวผ่อนขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับดันไปทางแนวกระดูกสันหลัง

๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดระดับเดียวกับปลายกระดูกสะบัก และให้คนไข้ก้มและเงยช้าๆ ขึ้น ลง ทำสามครั้ง

๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดบริเวณโค้งระหว่างคอกับบ่า และให้คนไข้หันหน้าไปทางซ้าย และขวาช้าๆ ทำสามครั้ง


๗.การนวดแก้สะบักจม  

สาเหตุ

-เกิดจากการทำงานหนักเกินไป แบกหรือหามของหนักมากเกินไป

-เกิดจากการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม คือหลังไม่ตรง และก้มคอมาก

-เกิดจากการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม

-เกิดจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ

อาการ

ปวดกล้ามเนื้อ เอ็น ที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังและสะบัก ยกแขนไม่สะดวก ก้มหรือเงยคอได้ไม่เต็มที่ หันหน้าซ้ายขวาหรือเวลายกของแล้วปวดเสียวลงมาที่ข้างสะบัก นอนตะแคงข้างที่ปวดได้ไม่สะดวก บางคนหายใจเข้าก็ปวด ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก ถ้าเป็นน้อยน้อยอาจปวดตื้อตื้อ น่ารำคาญ ถ้าปล่อยไว้นาน นาน จะปวดหลังและเอวได้

หมายเหตุ  ถ้ามีอาการสะบักจม ร่วมกับปวดไหล่และแขน ให้นวดส่วนแขนและไหล่ก่อน

จุดบังคับ

๑.แนวข้างสะบัก

๒.จุดโค้งคอ บ่า อยู่ตรงโค้งระหว่างคอกับบ่าค่อนมาทางด้านหน้า

๓.จุดร่องซี่โครงหนึ่งและสอง  อยู่ตรงร่องระหว่างกระดูกซี่โครงซี่ที่หนึ่งกับสอง

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวข้างสะบัก กดแล้วผ่อนแรงขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับดันไปทางแนวกระดูกสันหลัง

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดระหว่างซี่โครงหนึ่งและสอง

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดตรงโค้งระหว่างคอกับบ่าค่อนมาทางด้านหน้า


๘.การนวดแก้จุกเสียด

อาการ 

มีอาการจุกเสียดตรงบริเวณยอดอก หรือลิ้นปี่ บริเวณชายโครง ใต้สะบัก และหน้าอก ถ้าเรอจะรู้สึกสบายขึ้น อาจมีอาการรู้สึกเบื่ออาหาร และท้องผูกร่วมด้วย

สาเหตุ

๑.เกิดจากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา

๒.รับประทานอาหารย่อยยาก หรือ อาหารรสจัด

๓.รับประทานอาหารหมักดอง หรือถั่วชนิดต่างๆ สาเหตุการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร

๔.เกิดจากความเครียด

ข้อแนะนำ

๑.กินยาขับลม หรือดื่มน้ำขิง

๒.รับประทานอาหารย่อยง่าย

๓.ออกกำลังเพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว

๔.หลีกเลี่ยงความเย็น ในบริเวณที่มีอาการ ใช้น้ำร้อนประคบ

จุดบังคับ

๑.แนวหน้าท้อง เริ่มจากใต้ชายโครงสองนิ้วมือ ลงไปตามยาวสี่แนว

๒.แนวขาด้านนอก จุดใต้สะบ้าหัวเข่าสี่นิ้วมือ และแนวขาด้านนอกสอง (ช่วงแข้ง)

๓.แนวหลังหนึ่ง

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง โดยเน้นกดจุดใต้สะบ้า สี่นิ้วมือ

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวหลังหนึ่ง ทั้งสองข้าง

๓.ใช้ปลายนิ้วมื้อทั้งสี่ซ้อนกัน กดแนวหน้าท้องสี่แนว โดยเริ่มจากชายโครงลงมา

๔.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดจุดตรงสะดือ

*หมายเหตุ :หลังจากนวดซีกซ้ายแล้วให้สลับนวดซีกขวา


๙.การนวดแก้ท้องผูก

อาการ

  ถ่ายอุจจาระแข็งหรือไม่ถ่ายอุจจาระนานหลายวัน(เว้นระยะนานกว่าที่เคยเป็นอยู่ตามปกตินิสัย) หรือถ่ายลำบาก ถ่ายเป็นก้อนแข็งคล้ายขี้แพะ เป็นพรรดึก อึดอัดในท้อง ผายลมบ่อย จุกเสียดในท้อง ร้อนใน ปากเป็นแผล ลิ้นเป็นฝ้า หายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นสิว ฝี เป็นริดสีดวงทวารหนัก

จุดบังคับมี

  ๑.แนวข้างกระดูกกระเบนเหน็บและจุดก้นกบ

  ๒.แนวลำไส้ใหญ่ วนจากขวา ชึ้นไปแล้วลงซ้าย 

  ๓.จุดเหนือข้างสะดือ และใต้ข้างสะดือสี่จุด

วิธีนวด

  ๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวข้างกระเบนเหน็บ

  ๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดก้นกบ โยกดแล้วดันเข้าไปที่กระดูกก้นกบ นิ่งไว้ประมาณสิบวินาที

  ๓.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดโกยท้อง เคลื่อนที่ไปรอบๆบริเวณท้องตามแนวลำไส้ใหญ่ทำสักสามถึงห้ารอบ(ตามเข็มนาฬิกา)

  ๔.ให้คนไข้นอนชันเข่า ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดจุดเหนือข้างสะดือสองข้างพร้อมพร้อมกัน

  ๕.ให้คนไข้นอนชันเข่า ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดจุดใต้ข้างสะดือสองข้างพร้อมพร้อมกัน


๑๐.การนวดป้องกันการปวดประจำเดือน

อาการ  

     เริ่มมีอาการก่อนมีประจำเดือนไม่กี่ชั่วโมง และเป็นอยู่ตลอดช่วงสองถึงสามวันแรกของการมีประจำเดือน โดยมีอาการปวดหน่วงเป็นพักพัก ที่บริเวณท้องน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ใจคอหงุดหงิด ปวดหลัง ปวดบริเวณหน้าขา กระเบนเหน็บร่วมด้วย ถ้าปวดรุนแรงอาจมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น มือเท้าเย็น

จุดบังคับ

  ๑.แนวหลังหนึ่ง

  ๒.แนวขาด้านหลังหนึ่งทั้งช่วงต้นขา และช่วงน่อง

  ๓.แนวอุ้งเชิงกราน และจุดเหนือหัวเหน่า(อยู่ใต้สะดือสี่นิ้วมือ)

  ๔.แนวขาด้านหน้าหนึ่งช่วงต้นขา

วิธีนวด

๑.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดแนวขาด้านหน้าหนึ่ง ช่วงต้นขา

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดแนวขาด้านหลังหนึ่งเริ่มจากเอ็นร้อยหวายไปถึงใต้แก้มก้น

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดแนวหลังหนึ่ง

๔.ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสี่ซ้อนกัน กดแนวอุ้งเชิงกรานข้างละสามจุด กดเน้นเข้าหากระดูกเชิงกราน จุดละประมาณสิบวินาที ทำสามรอบ (นวดทีละข้าง)

๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดเหนือหัวเหน่า(อยู่ต่ำจากสะดือประมาณสี่นิ้วมือ)โดยกดนิ่งสิบวินาที


๑๑.การนวดป้องกันตะคริว

ตะคริว หมายถึงการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบางมัด หรือหลายมัดอย่างรุนแรงต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน โดยไม่ได้ตั้งใจทำ

อาการ

กล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตะคริวจะแข็งเกร็ง ถ้าขยับจะยิ่งแข็งและปวดมากขึ้น ทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อตามมา พบบ่อยบริเวณน่อง นิ้วมือ นิ้วเท้า  ถ้าเป็นที่ท้องจะมีอันตรายมาก และมักพบในนักกีฬา กรรมกร หญิงมีครรภ์ และหญิงวัยหมดประจำเดือน

จุดบังคับ

๑.จุดใต้าสะบ้า อยู่ใต้หัวเข่าสี่นิ้วมือ

๒.แนวขาด้านนอกสองและสาม ช่วงแข้ง

๓.จุดกลางน่อง

๔.แนวขาด้านหลังหนึ่ง ช่วงน่อง

วิธีนวด

๑.ใช้มือข้างหนึ่งจับเหนือเข่า มืออีกข้างจับส้นเท้า ยกและดันปลายเท้าขึ้น

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง ช่วงแข้ง  และกดเน้นจุดใต้สะบ้าสี่นื้วมือ

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสาม ช่วงแข้ง

๔.หมอนั่งปลายเท้าคนไข้ ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง สาวน่องตามแนวขาด้านหลังหนึ่ง โดยเน้นจุดกลางน่อง

๑๒.การนวดแก้ข้อเท้าแพลง

ข้อเท้าแพลงด้านนอก หมายถึง อาการยืดหรือฉีกขาดของพังผืด หรือกล้ามเนื้อที่ยึดข้อเท้าด้านนอก

อาการ

หลังข้อเท้าแพลงทันที จะมีอาการเจ็บที่ข้อ เจ็บมากเวลาเคลื่อนไหวข้อ หรือใช้นิ้วกด ต่อมาจะบวม แดง และ ร้อน

จุดบังคับ

๑.แนวขาด้านอกหนึ่งและสอง และสาม ช่วงแข้ง

๒.แนวขาด้านหลังหนึ่งและสอง ช่วงน่อง

๓.ขุดหน้าข้อเท้า

วิธีนวด

๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกหนึ่ง ช่วงแข้ง

๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง ช่วงแข้ง

๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสาม ช่วงแข้ง

๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังหนึ่ง ช่วงน่อง

๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านหลังสอง 

๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดหน้าข้อเท้า

๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดเจ็บที่ข้อเท้าเบาเบา แล้วใช้มืออีกข้างจับเท้าหมุนข้อเท้า


๑๓.การนวดแก้ไหล่ติด

อาการปวดเสียวขัดที่บริเวณข้อไหล่ จากความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เอ็น เยื่อหุ้มกระดูก เส้นประสาท และการไหลเวียนของเลือดบริเวณไหล่และบริเวณที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผลจากการใช้งาน ความเสื่อม หรือได้รับบาดเจ็บที่ไม่ทำให้โครงสร้างของกระดูกแตก หัก หรือเคลื่อนที่ร้ายแรง ความเจ็บปวดทำให้มีการเคลื่อนไหวข้อไหล่ได้น้อยลง(ยกแขน กางแขน หุบแขน หมุนแขนเข้าและออก)และติดขัดในที่สุด .....อาการไหล่ติด (ประโยคที่เขียนเส้นใต้ไว้จะเป็นตัวบอกชื่อโรค)

อาการไหล่ติดมีสี่ชนิด......1.ไหล่ติดด้านหน้า  ปวดบริเวณสะบักหน้า ยกแขนขึ้นมาด้านหน้าได้ลำบากหรือไม่ได้ ยกแขนไขว้หลังหรือเอามือล้วงกระเป๋าหลังได้ลำบากหรือทำไม่ได้   ยกแขนเอามือแตะไหล่และสะบักด้านตรงข้ามได้ลำบากหรือทำไม่ได้    2.ไหล่ติดด้านหลัง    ปวดที่สะบักหลัง กล้ามเนื้อสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กางแขนออกด้านข้างได้ลำบากหรือไม่ได้  ยกไหล่ขึ้น และกดไหล่ลงได้ลำบากหรือไม่ได้  ยกแขนเอามือแตะไหล่และสะบักด้านตรงข้ามได้ลำบากหรือทำไม่ได้   3.ไหล่ติดด้านบน   ปวดที่กล้ามเนื้อสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปวดแนวราวบ่า กางแขนออกด้านข้างและหุบแขนได้ลำบากหรือไม่ได้ ยกไหล่ขึ้นและกดไหล่ลงลำบากหรือไม่ได้         4.ไหล่ติดด้านข้าง    มีอาการปวดภายในข้อไหล่ ปวดบริเวณหนีบรักแร้ ใต้รักแร้ ยกแขนขึ้นมาด้านหน้าไม่ได้ หรือทำได้ลำบาก กางแขนออกทางด้านข้างได้ลำบาก หรือทำไม่ได้

หัวไหล่ติดมีสามระยะ   1.ระยะที่หนึ่งระยะเจ็บปวด ปวดมาก หกสัปดาห์ ถึงเก้าเดือน       2.ระยะที่สองระยะข้อยึด อาการปวดเริ่มลดลง สี่เดือนถึงหกเดือน    3.ระยะที่สามระยะฟื้นต้ว ปวดลดลงเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ห้าเดือนถึงสองปี

สาเหตุ...1.นั่งทำงานที่โต๊ะในลักษณะยกหัวไหล่ขึ้นเป็นเวลานาน    2.นอนยกแขนขึ้นเหนือศีรษะเป็นประจำ    3.นอนตะแคงทับหัวไหล่ข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน   4.ยกหรือแบกของหนักเป็นเวลานานหรือเป็นประจำ  5.ได้รับอุบัติเหตุ ถูกกระแทกที่หัวไหล่สะบักหลัง หรือมีการกระชากข้อไหล่     6.ความเสื่อมของข้อไหล่เอง

การซักถามและตรวจร่างกาย...1.ซักถามเรื่องพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุทำให้ไหล่ติด  2.ให้ผู้ป่วยแสดงท่าทางในชีวิตประจำวันที่ทำให้เจ็บปวดหัวไหล่ แล้วใช้นิ้วมือชี้ไปที่ตำแหน่งที่เจ็บปวด   3.ให้ผู้ป่วย ยกแขน กางแขน หมุนแขนเข้าและออก สังเกตุความสามารถในการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ทำได้มากน้อยเพียงใด และมีความเจ็บปวดอยู่ระดับใด ตำแหน่งจุดที่เจ็บปวดอยู่ที่ใด   4.ให้ผู้ป่วยยื่นแขนมาข้างหน้าตรงๆแล้วค่อยๆหงายฝ่ามือขึ้น ค่อยๆคว่ำฝ่ามือให้หลังมือหันเข้าหากัน สังเกตความสามารถของการเคลื่อนไหวข้อไหล่ทำได้เพียงใด มีความเจ็บปวดระดับใด ตำแหน่งที่เจ็บปวดอยู่ที่ใด  5.คลำกล้ามเนื้อ เอ็น บริเวณบ่า ไหล่ สะบัก และแขน เพื่อตรวจความตึง ความแข็ง ความอ่อน ความเย็น ความร้อน   6.หาตำแหน่งจุดกดเจ็บ

ข้อควรระวัง...1.ข้อไหล่ติดที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ หลายโรค ที่พบบ่อยคือ อัมพาตครึ่งซีก จึงควรจัดการกับโรคที่เป็นต้นเหตุด้วย    2.การเจ็บหรือขัดยอกข้อไหล่ ถ้ารีบแก้ตั้งแต่แรกเป็น จะไม่ลุกลาม แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวในทิศทางที่เจ็ฐ อาจทำให้เกิดการติดขัดจนถึงขั้นข้อไหล่ติดแข็งได้

ข้อควรระวังในการนวด.....1.การกดนวดบริเวณที่มีการบาดเจ็บของข้อไหล่ ควรนวดด้วยความแผ่วเบาก่อนเสมอ 2.ควรตรวจลมในท้อง หากมีลมในท้อง ควรโกยท้องก่อน ก่อนกดจุดใต้กระดูกไหปลาร้า

ท่ากายบริหาร....เพื่อยืดเยื้อหุ้มข้อไหล่ และเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ ควรทำทีละน้อย แต่ถ้าทำแล้วเจ็บมากขึ้นติดต่อกันหลายวันควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทาง   ท่าที่1ยืดหัวไหล่ด้านหลัง...นั่งขัดสมาธิ งอข้อศอกข้างหนึ่งให้มือวางบนบ่าด้านตรงข้าม ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับที่ข้อศอกไว้ หายใจเข้า แล้วหายใจออก พร้อมๆกับดึงข้อศอกเข้าหาตัวให้มากที่สุด  หายใจเข้าออกปกติสามถึงห้าครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้าง  ท่าที่2ยืดหัวไหล่ด้านข้าง....นั่งขัดสมาธิ งอข้อศอกข้างหนึ่งยกขึ้นไว้ทางด้านหลังของศีรษะ ใช้มืออีกข้างจับมือที่ยกไว้  หายใจเข้า แล้วหายใจออก พร้อมๆกับดึงมือลงมาให้มากที่สุด หายใจเข้าออกปกติสามถึงห้าครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้าง

ข้อแนะนำ...1.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมและอิริยาบถที่ทำให้ปวดไหล่  2.เมื่ออาการทุเลาลงแล้วควรบริหารและเคลื่อนไหวข้อไหล่เป็นประจำ 3.หากข้อไหล่ปวดอักเสบเฉียบพลัน ควรพักการใช้งาน และหยุดการเคลื่อนไหวข้อไหล่ข้างที่ปวดชั่วตราว หนึ่งถึงสองวัน  4.ไม่ควรบีบ นวดหรือดัดข้อไหล่ที่กำลังปวด

จุดสำคัญและแนวนวด... 1จุดใต้กระดูกไหปลาร้า สามจุด  2.จุดร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้า    3จุดเหนือรักแร้ด้านหน้า  4จุดรอบข้อไหล่ทางด้านหลังสามจุด  5แนวข้างสะบักด้านใน  6จุดกลางสะบัก   7จุดเหนือรักแร้ด้านหลัง

ท่านวดแก้ไหล่ติด(ให้ฝึกปฏิบัติและท่องไปพร้อมๆกัน)...1กดจุดใต้ไหปลาร้าหนึ่ง สองและสาม ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดที่หนึ่ง   ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดที่สอง   ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดจุดที่สาม  2.กดจุดร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้าใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้า   3.ใช้สันมือกดจุดร่องกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมด้านหน้า มืออีกข้างจับข้อมือค่อยๆกางแขนขึ้น   4.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดรอบข้อไหล่ทางด้านหลัง   5.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวข้างสะบักด้านใน ดันเข้าหาสะบัก แล้ววาดออกมาทางกระดูกสันหลัง   6.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดกลางสะบัก มือขวาประคองที่หัวไหล่ของผู้รับการนวด   7.กดจุดเหนือรักแร้หน้าและหลังพร้อมกับยกแขนขึ้น ใช้นิ้วหัวแม่มือของทั้งสองมือกดจุดตรงเหนือรักแร้ด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกับยกตัวขึ้นยืนบนเข่า  เพื่อให้แขนของผู้รับการนวดยกขึ้นในลักษณะการออก   8.กดจุดเหนือรักแร้ด้านหลังแล้วหมุนข้อไหล่ ใช้มือซ้ายจับข้อมือซ้ายของผู้รับการนวด หมุนข้อไหล่คล้ายท่าว่ายน้ำไปข้างหน้า ห้าถึงสิบครั้ง และกลับข้างหลังห้าถึงสิบครั้ง พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดจุดด้านหลังเหนือรักแร้ของไหล่ซ้ายในขณะหมุนข้อไหล่ด้วย   9.ใช้สองมือจับโยกข้อไหล่ ใช้มือทั้งสองข้างจับหัวไหล่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ประคองให้แน่น แล้วโยกข้อไหล่ ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ห้าถึงสิบครั้ง และทวนเข็มนาฬิกา ห้าถึงสิบครั้ง    10.จับข้อมือเขย่าแขน(เพื่อผ่อนคลายหัวไหล่ และไล่เลือดลม) ใช้มือทั้งสองข้างจับข้อมือของแขนข้างที่มีอาการไหล่ติด ให้แขนของผู้ได้รับการนวดเหยียดตรงและผ่อนคลาย ผู้นวดจับข้อมือเขย่าขึ้นลงเบาๆ



๑๔.การนวดแก้ปวดสะโพก สลักเพชร

อาการ 

มีอาการเจ็บ ปวด เสียว เสียด ขัดที่บริเวณข้อสะโพก หรือข้างกระเบนเหน็บ อาจปวดบั้นเอว ปวดเข่า ปวดขา ดึงร้าวขา ขาอ่อนแรง และชาขาร่วมด้วย

จุดบังคับ

  ๑.แนวอุ้งเชิงกราน และจุดหัวตะคาก

  ๒.จุดรัตตะคาต จุดปัตคาต และจุดสันทะคาต

   ๓.จุดสลักเพชร และจุดใต้ขาหนีบ

  ๔.แนวเกลียวข้าง แนวโค้งเชิงกราน จุดสลักเพชรใน แนวข้างกระเบนเหน็บ

  ๕.จุดใต้ปลายมือ (อยู่บนแนวขาด้านหลังสองใต้ปลายมือคนไข้) และจุดใต้ปลายปลายมือ สองนิ้วมือ(อยู่บนแนวขาด้านหลังสอง ใต้ปลายมือของคนไข้สองนิ้วมือ)  และจุดใต้สะบ้าสี่นิ้วมือ(อยู่ข้างกระดูกหน้าแข้งใต้สะบ้าสี่นิ้วมือ)   และจุดข้างตาตุ่มนอก   และจุดขอบฝ่าเท้าด้านนอก

วิธีนวด

๑.นวดขา โดยใช้ท่านวดพื้นฐานท่าที่หนึ่งถึงท่าที่ยี่สิบสี่

๒.โกยท้อง ตามแนวอุ้งเชิงกราน ใช้ส้นมือกดดันออกไปทางสะดือ และใช้ปลายนิ้วมือโกยท้องเข้ามาหาสะดือ

๓.ใช้ศอกจุดปัตคาต

๔.ใช้ศอกกดจุดรัตคาต

๕.ใช้ศอกกดจุดสันฑะคาต

๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดแนวหลังพนึ่ง

๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดแนวหลังสอง

๘.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวเกลียวข้าง

๙.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแก้ยอกสะโพก ซึ่งอยู่บนแนวเกลียวข้าง

๑๐.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดสลักเพชรใน

๑๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดขอบฝ่าเท้าด้านนอก

๑๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดข้างตาตุ่มนอก แล้วกดจุดแนวขาด้านหลังสอง(ช่วงน่อง)

๑๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง และกดจุดใต้สะบ้าสี่นิ้วมือ

๑๔.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดใต้ปลายมือสองนิ้วมือ

๑๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดใต้ปลายมือของคนไข้

๑๖.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดหน้าหัวตะคาก

๑๗.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดหลังปุ่มกระดูกเชิงกรานด้านหน้า(หัวตะคาก) แล้วกดตามแนวโค้งเชิงกรานด้านหลังลงมาจนถึงแนวข้างกระเบนเหน็บ

๑๘.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดใต้ขาหนีบ ของต้นขาด้านใน

๑๙.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดสลักเพชร (ห้ามกดขยี้โดยเด็ดขาด)


ขอให้หนูทุกคนจงมีโชคดีในการสอบ..... เอบวกบวก



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนวดพื้นฐาน 95ท่า หนังสือผ่านแอพพิเคชั่นเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา

ความพร้อมกับการสอบปฏิบัตินวดไทยสิบสี่อาการ กลุ่มอาการที่สี่