ความพร้อมกับการสอบปฏิบัตินวดไทยสิบสี่อาการ กลุ่มอาการที่สาม
ความพร้อมกับการสอบปฏิบัตินวดไทยสิบสี่อาการ
กลุ่มอาการที่สาม ท้องผูก -จุกเสียด-ป้องกันการปวดประจำเดือน
จุดสำคัญและแนวนวดแก้อาการท้องผูก ๑.แนวข้างกระดูกกระเบนเหน็บและจุดก้นกบ ๒.แนวลำไส้ใหญ่ วนจากขวา ชึ้นไปแล้วลงซ้าย ๓.จุดเหนือข้างสะดือ และใต้ข้างสะดือสี่จุด หมายเหตุ...อาการท้องผูก ต้องกดจุดก้นกบนิ่งไว้สิบวินาที
วิธีนวด(ให้ฝึกปฏิบัติและท่องไปพร้อมๆกัน)
๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวข้างกระเบนเหน็บ
๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือกดจุดก้นกบ โดยกดแล้วดันเข้าไปที่กระดูกก้นกบ นิ่งไว้ประมาณสิบวินาที
๓.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดโกยท้อง เคลื่อนที่ไปรอบๆบริเวณท้องตามแนวลำไส้ใหญ่ทำสักสามถึงห้ารอบ(ตามเข็มนาฬิกา)
๔.ให้คนไข้นอนชันเข่า ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดจุดเหนือข้างสะดือสองข้างพร้อมพร้อมกัน
๕.ให้คนไข้นอนชันเข่า ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดจุดใต้ข้างสะดือสองข้างพร้อมพร้อมกัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.มีอาการปวดท้องปวดหน่วงเป็นพักพัก ที่บริเวณท้องน้อยและมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ใจคอหงุดหงิด ปวดหลัง ปวดบริเวณหน้าขา กระเบนเหน็บร่วมด้วย มีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น มือเท้าเย็น มักจะมีอาการก่อนมีประจำเดือนไม่กี่ชั่วโมง และเป็นอยู่ตลอดช่วงสองถึงสามวันแรกของการมีประจำเดือนเป็นประจำทุกเดือน .....อาการปวดประจำเดือน(ประโยค"ปวดหน่วงที่บริเวณท้องน้อยมักจะมีอาการก่อนมีประจำเดือนไม่กี่ชั่วโมง และเป็นอยู่ตลอดช่วงสองถึงสามวันแรกของการมีประจำเดือนเป็นประจำทุกเดือน" จะเป็นตัวบอกชื่อโรค)
สาเหตุ 1.ระดูและเลือดลมไม่ปกติ 2.โครงสร้างกระดูกสันหลัง และกระดูกเชิงกรานไม่ปกติ มีความเครียดวิตกกังวล
การซักถามและตรวจร่างกาย 1.ซักถามลักษณะของประจำเดือน ลักษณะของอาการปวด 2.ใช้มือสัมผัส สังเกตความร้อนความเย็นในอุ้งเชิงกราน และคลำ แตะเบาๆบริเวณเหนือหัวเหน่าสังเกตความตึงตัวของมดลูก และหาจุดปวดหน่วง
คำแนะนำ
1.ควรนวดและประคบสมุนไพร ก่อนการมีประจำเดือนประมาณเจ็ดวัน และหลังการมีประจำเดือนเจ็ดวัน
2.ประคบร้อนบริเวณที่ปวด นอนพัก และดื่มน้ำขิงหรือน้ำอุ่น
3.ช่วงก่อนมีประจำเดือนเจ็ดวันและขณะมีประจำเดือน ห้ามดื่มน้ำเย็น ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามสระผมเวลาช่วงเย็นและกลางคืน ห้ามกินอาหารรสเย็น เช่น แตงชนิดต่างๆ ฟัก น้ำมะพร้าว กล้วยหอม แก้วมังกร น้ำเต้าหู้ เพราะจะทำให้ประจำเดือนติดขัดและ เป็นระดูทับไข้ หรือไข้ทับระดู
ท่ากายบริหาร 1.นั่งคุกเข่าหายใจเข้า หายใจออก ก้มตัวลง ให้หน้าผากแตะพื้น เหยียดแขนทั้งสองข้างไปข้าง หน้าให้สุดแล้วหายใจเข้าออกปกติ สามถึงห้าครั้ง แล้วผ่อนออก 2.นั่งหลังตรง งอเข่าทั้งสองข้าง พับขาเข้ามาให้ฝ่าเท้าประกบกัน ใช้มือทั้งสองข้างจับที่นิ้วเท้า และใช้มือดันให้ส้นเท้าชิดเข้าหาฝีเย็บ แล้วขยับหัวเข่าขึ้นลงเบา
จุดบังคับ
๑.แนวหลังหนึ่ง
๒.แนวขาด้านหลังหนึ่งทั้งช่วงต้นขา และช่วงน่อง
๓.แนวอุ้งเชิงกราน และจุดเหนือหัวเหน่า(อยู่ใต้สะดือสี่นิ้วมือ)
๔.แนวขาด้านหน้าหนึ่งช่วงต้นขา
วิธีนวด(ให้ฝึกปฏิบัติและท่องไปพร้อมๆกัน)
๑.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดแนวขาด้านหน้าหนึ่ง ช่วงต้นขา
๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดแนวขาด้านหลังหนึ่งเริ่มจากเอ็นร้อยหวายไปถึงใต้แก้มก้น
๓.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกันกดแนวหลังหนึ่ง
๔.ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสี่ซ้อนกัน กดแนวอุ้งเชิงกรานข้างละสามจุด กดเน้นเข้าหากระดูกเชิงกราน จุดละประมาณสิบวินาที ทำสามรอบ (นวดทีละข้าง)
๕.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดเหนือหัวเหน่า(อยู่ต่ำจากสะดือประมาณสี่นิ้วมือ)โดยกดนิ่งสิบวินาที
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.มีอาการจุกเสียดตรงบริเวณยอดอก หรือลิ้นปี่ บริเวณชายโครง ใต้สะบัก และหน้าอก ถ้าเรอจะรู้สึกสบายขึ้น อาจมีอาการรู้สึกเบื่ออาหาร และท้องผูกร่วมด้วย......อาการจุกเสียด(ประโยค"จุกเสียดตรงบริเวณยอดอก หรือลิ้นปี่ถ้าเรอจะรู้สึกสบายขึ้น "จะเป็นตัวบอกชื่อโรค)
สาเหตุ
๑.เกิดจากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
๒.รับประทานอาหารย่อยยาก หรือ อาหารรสจัด
๓.รับประทานอาหารหมักดอง หรือถั่วชนิดต่างๆ สาเหตุการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
๔.เกิดจากความเครียด
ข้อห้ามในการนวด ....ถ้ามีอาการจุกเสียดเป็นประจำ ควรค้นหาสาเหตุของอาการจุกเสียด ซึ่งอาจได้แก่ โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือในลำไส้เล็กส่วนต้น โรคกระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลัน โรคกรดไหลย้อน โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคหัวใจขาดเลือด โรคตับ ในกรณีดังกล่าวควรรักษาที่สาเหตุของโรค
การซักถามและตรวจร่างกาย....1.ซักถามเกี่ยวกับอาหารที่กิน การเคี้ยวอาหาร การเคลื่อนไหวร่างกายหลังกินอาหาร และความเครียด 2.ให้ผู้ป่วยนอนหงายเหยียดขาตรง ใช้มือคลำและกดท้อง พบท้องตึง เคาะท้องมีเสียงโปร่ง
ท่ากายบริหาร ....1.ดัดตนแก้จุกเสียด นั่งขัดสมาธิ ตัวตั้งตรงกอดอกให้แน่นหายใจเข้าช้าๆ กำหนดจิตที่ท้องที่จุกเสียด พร้อมทั้งยืดตัวขึ้นให้สุด แล้วหายใจออกช้าๆ แล้วผ่อนออก ทำสามถึงห้าครั้ง 2.การนวดตัวเอง โดยใช้นิ้วมือทั้งสี่ของมือทั้งสองข้างบีบนวดแนวขาด้านนอกช่วงหน้าแข้ง
ข้อแนะนำ
๑.กินยาขับลม หรือดื่มน้ำขิง
๒.รับประทานอาหารย่อยง่าย
๓.ออกกำลังเพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว
๔.หลีกเลี่ยงความเย็น ในบริเวณที่มีอาการ ใช้น้ำร้อนประคบ
๕.งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และน้ำอัดลม
จุดบังคับ
๑.แนวหน้าท้อง เริ่มจากใต้ชายโครงสองนิ้วมือ ลงไปตามยาวสี่แนว
๒.แนวขาด้านนอก จุดใต้สะบ้าหัวเข่าสี่นิ้วมือ และแนวขาด้านนอกสอง (ช่วงแข้ง)
๓.แนวหลังหนึ่ง
วิธีนวด(ให้ฝึกปฏิบัติและท่องไปพร้อมๆกัน)
๑.ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้อนกัน กดจุดแนวขาด้านนอกสอง โดยเน้นกดจุดใต้สะบ้า สี่นิ้วมือ
๒.ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดจุดแนวหลังหนึ่ง ทั้งสองข้าง
๓.ใช้ปลายนิ้วมื้อทั้งสี่ซ้อนกัน กดแนวหน้าท้องสี่แนว โดยเริ่มจากชายโครงลงมา
๔.ใช้ฝ่ามือซ้อนกัน กดจุดตรงสะดือ
*หมายเหตุ :หลังจากนวดซีกซ้ายแล้วให้สลับนวดซีกขวา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น