แบบฝึกหัดนวดไทยราชสำนัก...สำหรับแอพฯอ่านออกเสียงผู้พิการทางการเห็น
แบบฝึกหัดนวดไทยราชสำนัก...
ข้อ 1.ศาสตราจารย์ นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย ได้จัดหลักสูตรการนวกไทยแบบราชสำนักเข้าเป็นวิชาเอกวิชาหนึ่งในหลักสูตรอายุรเวท โดยได้เชิญ ท่านอาจารย์ณรงค์สักข์ บุญรัตนหิรัญ มาเป็นผู้ถ่ายทอด
ข้อ2.บรมครูนวดไทยแบบราชสำนัก มีใครบ้าง
ตอบ ๑นายแพทย์กรุด ลูกศิษย์หลวงวาโย ๒หมอชิต เดชพันธ์ บุตรชายคนเล็กของหมออินทร์เทวดา ๓หลวงราชรักษา ๔อาจารย์พัว หลายศรีโพธิ์ ลูกศิษย์หลวงลามเดชะ ๕บรมครูมวยไทย ดาบไทย
๖อาจารย์ณรงค์สักข์ บุญรัตนหิรัญ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาหัตถะเวชให้กับสถาบันอายุรเวทวิทยาลัย
ข้อ3 หมออินทร์ เดชพันธ์ คือใคร
ตอบ ท่านได้รับสมญานามว่า หมออินทรเทวดา เนื่องจากท่านเป็นผู้มีอัจฉริยะในการนวด ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ลงมือนวดรักษาโรคผู้ใด มักจะหายทุกรายได้อย่างง่ายดาย เหมือนเทวดามาปัดเป่า ท่านได้เคยถวายการนวดในราชสำนักในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕(มีลายพระราชหัตถเลขาในเรื่องเกี่ยวกับหมอนวดไว้)
ข้อ4 การนวดไทยแบบราชสำนักจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไร
ตอบ ๑.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก ต้องมีกิริยามารยาทเรียบร้อย เดินเข่าเข้าหาผู้ป่วย ไม่หายใจรดผู้ป่วยขณะทำการนวด จึงต้องหันหน้าตรงไม่ก้มหน้าจนหายใจรดผู้ป่วย และไม่เงยหน้าจนเป็นการไม่สุภาพ ส่วนหมอนวดไทยแบบทั่วไป ก็ได้เพ่งเล็งถึงเรื่องเหล่านี้แต่มีลักษณะการนวดเป็นกันเองกับผู้ป่วยมากกว่า บางคราวจึงดูไม่สำรวม และไม่ระมัดระวังตัวมากนัก ๒.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก จะไม่เริ่มนวดฝ่าเท้า นอกจากจำเป็นจริงๆ โดยมาจะเริ่มนวดตั้งแต่ใต้เข่ามาข้อเท้า หรือจากต้นขาลงมาถึงข้อเท้า ๓.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก จะใช้เฉพาะมือ คือ นิ้วหัวแม่มือ ปลายนิ้วอื่น และอุ้งมือในการนวดเท่านั้น ผสมกับท่าทาง องศา จังหวะในการลงน้ำหนัก เพื่อการรักษาโรค ๔.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก ทำการนวดผู้ป่วยซึ่งอยู่ในท่านั่ง นอนหงาย หรือนอนตะแคงเท่านั้น ไม่ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ ๕.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก ไม่ใช้การดัดงอข้อ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายผู้ป่วยด้วยกำลังที่รุนแรง ไม่มีการนวดโดยใช้เท้า เข่า ข้อศอก ฯลฯ และใช้หลักวิชาในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค ๖.หมอนวดไทยแบบราชสำนัก ต้องการทำให้เกิดผลต่ออวัยวะและเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกๆ โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการทำงานของเส้นประสาท ดังนั้นหมอนวดจะต้องมีความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ สรีระศาสตร์ และพยาธิวิทยา ฯลฯ เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ข้อ5หมอนวดไทยแบบราชสำนักต้องมีความรู้เกี่ยวกับ
ตอบ กายวิภาคศาสตร์ และสรีระวิทยา หัตถเวชกรรมแผนไทย(นวดแบบราชสำนัก)
ข้อ6 ต้องรู้กายวิภาคศาสตร์ หมายถึง
ตอบ ต้องรู้ว่ารูปร่างหน้าตาและตำแหน่งของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ถ้าไม่รู้ก็อาจทำให้การนวดผิดพลาดเป็นอันตรายได้
ข้อ7 ต้องรู้สรีระวิทยา หมายถึง
ตอบ ต้องรู้หน้าที่ของอวัยวะต่างๆ และหน้าที่ของระบบต่างๆ
ข้อ8 ต่อระบบผิวหนังการนวด การนวดมีผลทำให้
ตอบ การไหลเวียนเลือดที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้อุณหภูมิที่ผิวหนังเพิ่มขึ้น กระตุ้นการขับเหงื่อ และไขมัน
ลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัด ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและกระชับ
ข้อ9ต่อระบบกล้ามเนื้อ การนวดมีผลทำให้
ตอบ กล้ามเนื้อที่แข็งตึงอ่อนนิ่มลง(กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้สารพิษที่คั่งค้างในกล้ามเนื้อไหลเวียนออกไปได้ ขณะเดียวกันเลือดก็นำสารอาหารเข้ามากล้ามเนื้อได้ดีขึ้น กล้ามเนื้อยืดหยุ่นดีขึ้น
ข้อ10 ต่อระบบกระดูกและข้อต่อ(อัฐิ)การนวดมีผลทำให้
ตอบ ทำให้กระดูกที่หัก ติดกันได้เร็วและดีขึ้น ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ไม่ติดขัด (ระบบการไหลเวียนโลหิตในข้อต่อดีขึ้น)
ข้อ11ต่อระบบไหลเวียนเลือด (โลหิตตัง)การนวดมีผลทำให้
ตอบ ๑.เพิ่มหรือส่งเสริมการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง(จะเห็นชัดเจนได้ในกรณีการเปิดประตูลม)
๒.การแต่งรสมือสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ ๓.ลดการอักเสบและการบวมได้
ข้อ12 ต่อระบบประสาท(มัตถเก-มัตถลุงคัง) การนวดมีผลทำให้
ตอบ ๑.ระบบประสาทถูกกระตุ้น และเกิดการผ่อนคลาย ๒.เป็นการฟื้นฟูระบบการทำงาน (โดยเฉพาะอาการโรคอัมพฤกษ์อัมพาต) ข้อระวัง เวลานวดต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอาการชอกช้ำของเส้นประสาทที่อาจนำไปสู่...”โรคหมอทำ”
ข้อ13 ต่อระบบย่อยอาหาร (อุทรียัง และกรีสัง)การนวดมีผลทำให้
ตอบ ๑.อวัยวะในช่องท้องมีการเคลื่อนไหว กระเพาะอาหาร และลำไส้มีการบีบตัวทำให้การย่อยอาหาร การดูดซืมอาหารได้ดี ๒.ระบบขับถ่ายปกติ ลดอาการท้องผูก(ลดอาการเถาดาน และพรรดึก)
ข้อ14 ต่อระบบสืบพันธุ์ การนวดมีผลทำให้
ตอบ ๑.ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ทำงานได้ดีขึ้น ๒.ในผู้หญิงจะทำให้ประจำเดือนมาตามปกติ ๓.ในผู้หญิงหลังคลอดบุตรทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น
ข้อ15 คุณสมบัติของหมอ หัตถเวชกรรมแผนไทย(นวดแบบราชสำนัก)ต้องประกอบไปด้วย
ตอบ ๑.เป็นผู้มีบุคลิกภาพที่ดี ๒.มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ๓.วางตัวให้เหมาะสม (แต่งกายสะอาดเรียบร้อย สุภาพ และเหมาะสมกับการนวด ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดรูป จะทำให้ปฏิบัติการนวดไม่คล่องตัว) ๔.มีกิริยาและท่าทางที่เรียบร้อย ๕.ใช้คำพูดที่เหมาะสม พูดให้ชัดเจนและสื่อสารแล้วผู้ป่วยเข้าใจ
ข้อ16 ศีลธรรมจรรยาบรรณของหมอนวดไทยแบบราชสำนัก
ตอบ ๑.ตั้งสัจจะ การตั้งสัจจะการรักษาศีลจรรยาบรรณโดยเคร่งครัดเป็นการป้องกันชื่อเสียงและตนเอง แล้วยังเป็นการรักษาชื่อเสียงของวิชาชีพ และสถาบันที่ตนเองได้รับการอบรมศึกษาวิชานวดไทยนั้นมาไม่ให้ตกต่ำ และรวมถึงการไม่ไปหรือข้องแวะกับสถานที่อโคจรนั้นด้วย
ศีลจรรยาบรรณที่ต้องยึดถือปฏิบัติคือ
๑.ไม่ดื่มสุรา หรือสิ่งมึนเมา ก่อนหรือหลังปฏิบัติงาน
๒.ไม่เจ้าชู้โดยใช้วิชาเป็นสื่อ
๓.ไม่หลอกลวงผู้ป่วยเพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ
สถานที่อโคจร
ไม่นวดผู้ป่วยในสถานที่อโคจร ได้แก่ โรงแรม โรงน้ำชา โรงยาฝิ่น สถานการพนัน สถานเริงรมย์และโรงพยาบาล ยกเว้นโรงพยาบาลซึ่งแพทย์อายุรเวทเข้าไปดำเนินกิจการอยู่ด้วย
๒.ตั้งนิ้ว การฝึกนิ้วมิอให้มีกำลัง โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ นับเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนนวดเป็นอย่างมาก เพราะหากหมอไม่มีกำลังนิ้วแล้ว เวลานวดจะไม่สามารถบังคับแรงที่ลงจุดนวดในแต่ละจุดให้สม่ำเสมอ และนุ่มนวลได้ ซึ่งจะทำให้การนวดไม่ได้ผลดี และอาจทำให้คนไข้ระบม ดังนั้นหมอควรจะต้องฝึกตั้งนิ้วให้สามารถยกตัวเองให้ลอยอยู่เหนือพื้นได้ประมาณ ๑ นาทีเป็นอย่างน้อย เรียกการฝึกการตั้งนิ้วนี้ว่า "การยกกระดาน"
๓.ตั้งสมาธิ
ในการเรียนหัตถเวชนี้ต้องใช้สมาธิทั้งด้านทฤษฎี และปฏิบัติจึงจะได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนวดคนไข้ หมอจะต้องตั้งสมาธิอยู่ที่นิ้วที่กดลงบนจุดสัญญาณต่างๆ มิฉะนั้นจะรับรู้การเต้นของสัญญาณต่างๆนั้นได้ยาก เมื่อกำหนดจุดสัญญาณต่างๆนั้นไม่ได้ การนวดนั้นย่อมผิดพลาดได้ง่าย การทำสมาธิโดยให้ใจจดจ่ออยู่ที่นิ้งเพีบงแห่งเดียว จะทำให้การรับสัมผัสของนิ้วนั้นไวขึ้น และให้แรงกดถูกต้อง กำลังและความอดทนของนิ้วดีขึ้น
๔.ตั้งตา
หมอต้องฝึกการมีการสังเกตุที่ดี ต้องตามองการสาธิตของอาจารย์ผู้สอนอย่างถึ่ถ้วน หมอจะต้องเข้าใกล้คนไข้ด้วยทีท่าอย่างไร แขนขางอ หรือกางประมาณกี่องศา และหมอจะวินิจฉัยโรคได้อย่างไร โรคใดหายได้ด้วยการนวด และโรคใดไม่สามารถรักษาให้หายได้ และหมอควรจะอธิบายคนไข้อย่างไร
๕.การตั้งใจ
หมอจะต้องตั้งใจฝึกฝนอยู่เสมอ ทั้งในและนอกชั้นเรียน ต้องมีความอดทนฝึกการตั้งสมาธิ การตั้งมือ การตั้งท่า และทบทวงนทฤษฏีอยู่เป็นนิจ ผลจากความตั้งใจ จะปรากฏให้เห็นเป็นความก้าวหน้า ซึ่งจะทำให้ครูผู้สอน มีความยินดีที่จะฝ฿กให้จนเป็นหมอที่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นใจ
ข้อ17 ขั้นตอน "ระเบียบในราชสำนัก"
ตอบ ๑.ต้องเดินเข่าเข้าหาคนไข้ เมื่ออยู่ห่างจากคนไข้ประมาณสี่ศอก ขณะเดินเข่า มือและแขนจะอยูแนบชิดลำตัว ไม่แกว่งแขน ๒.หมอนั่งพับเพียบ ให้ปลายเท้าชี้ลงล่าง ไปทางเดียวกับเท้าคนไข้ และนั่งห่างจากคนไข้ประมาณ ๑ ศอก(หัตถบาส) ๓.ยกมือไหว้คนไข้เพื่อทำความเคารพ ขออภัยที่ต้องถูกเนื้อต้องตัว ตามยศ ตำแหน่ง อายุของคนไข้ ๔.ตรวจชีพจรทั้งมือและเท้า เพื่อตรวจดูลมขึ้นเบื้องสูงและลมลงเบี้องต่ำ ว่าเท่ากันหรือสมดุลกันหรือไม่ รวมทั้งการทำงานของหัวใจ ๕.ในขณะทำการนวด หมอไม่ควรที่จะก้มหน้า เพราะจะเป็นการหายใจรดคนไข้ หรือไม่แหงนหน้า หันซ้ายหันขวาสอดส่ายสายตา เพระเป็นกิริยาที่ไม่สำรวม
ข้อ18หนึ่งหัตถบาส เท่ากับ
ตอบ หนึ่งศอก
ข้อ19 ท่าสำหรับคนไข้
ตอบ มี๔ท่า ท่านอนหงาย ท่านอนตะแคงคู้เข่า 90 องศา ซ้าย,ขวา ท่านั่งขัดสมาธิ ท่านั่งห้อยขา
ข้อ20 ท่านวดสำหรับหมอ
ตอบ มี๕ท่า ท่านั่งพับเพียบ ท่านั่งคุกเข่าคู่ ท่านั่งพรหมสี่หน้า ท่านั่งหนุมานถวายแหวน ท่ายืน หกสูง หกกลาง และหกต่ำ (หกสูงลงน้ำหนัก ๕๐ปอนด์ หกกลางลงน้ำหนัก๗๐ปอนด์ และหกต่ำลงน้ำหนักมือ ๙๐ ปอนด์โดยประมาณ)
ข้อ21 การเรียนวิชาหัตถเวชกรรมแผนไทย(นวดแบบราชสำนัก) การฝึกจะเรียงลำดับจากง่ายไปหายาก จะมีกี่ขั้นตอน
ดอบ สี่ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่หนึ่ง ฝึกกำลังนิ้วมือตามหลักของท่านอาจารย์ณรงค์สักข์ บุญรัตนหิรัญ กำหนดให้โหย่งนิ้วมือได้นาน ๖๐วินาที ตรวจชีพจรมือและเท้าพร้อมกัน ฝึกการนวดพื้นฐานที่ขา หลัง แขน บ่า ไหล่ ศีรษะและท้อง
ขั้นตอนที่สอง ฝีกการจับเส้นตามจุดสัญญาณต่างๆที่หลัง ขาด้านนอก ขาด้านใน แขนด้านนอก แขนด้านใน ศีรษะด้านหลัง ศีรษะด้านหน้า และสัญญาณท้อง
ขั้นตอนที่สาม ฝีกการนวดรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่พบบ่อย
ขั้นตอนที่สี่ ฝึกการนวดรักษาโรคที่ซับซ้อน
ข้อ22 กลุ่มอาการที่รักษาด้วยหัตถบำบัด
ตอบ ๑.เจ็บ ปวด บวม ขัดยอก ๒.ความพิการผิดรูป เดินกระเผลก ๓.กล้ามเนื้อไม่มีแรงอัมพฤกษ์ อัมพาต ๔.ภาวะข้ออักเสบ ข้อยึดติดแข็ง ข้อเคลื่อน ๕.ภาวะกระทบจิตใจ
ข้อ23 ข้อห้ามและข้อควรระวังในการทำหัตถบำบัด
ตอบ ข้อห้าม มี ๘ข้อดังนี้ ๑.มีไข้เกิน ๓๘.๕ องศาเซลเซียส ๒.ไข้พิษ ไข้กาฬ เช่น อีสุกอีใส งูสว้ด ๓.โรคผิวหนังที่มีการติดต่อ ๔.โรคติดต่อ เช่น วัณโรค ๕.ไส้ติ่งอักเสบ ๖.กระดูก แตก หัก ปริ ร้าว ที่ยังไม่ติด ๗.สภาวะผิดปกติของเลือด เช่น เลือดไม่แข็งตัว ๘.สภาวะที่มีการอักเสบทั้งระบบของร่างกาย
ข้อควรระวัง มี๔ ข้อดังนี้
๑.สตรีมีครรภ์ ๒.ใส่อวัยวะเทียมหลังผ่าตัดกระดูก ๓.สภาวะความดันโลหิตสูงเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท ๔.สภาวะข้อต่อหลวม
ข้อ24 วิธีการนวดรักษาจะแบ่งออกเป็น ๓ส่วนคือ
ตอบ -กระบวนท่านวด สถานที่ ท่านวด การวางมือและนิ้วมือ
-การจ่ายพลัง โดยอาศัยหลักการแต่งรสมือ คือ ขนาดของแรงและระยะเวลาในการนวดแต่ละจุด
-สูตรการนวด การนวดจุดใดก่อนหลัง การนวดซ้ำในแต่ละจุด ความถี่ห่างในการนวด
ข้อ25 ผลการรักษามีกี่ระดับ
ตอบ สามระดับ
-นวดแล้วหาย
-การนวดต้องอาศัยเวลา
-นวดแบบประคับประคอง
ข้อ26คำแนะนำหลังการนวด
ตอบ ๑.การประคบน้ำร้อน ๒.งดอาหารสแลง ๓.ท่าบริหารเฉพาะส่วน ๔.ห้ามบิด ดัด สลัด ส่วนที่เป็นโรค หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรค ๕.พักผ่อนให้เพียงพอ ๖.หลีกเลี่ยงสาเหตุ และพฤติกรรมก่อโรค
ข้อ27 การจะวินิจฉัยไปว่า นวด ๓ ครั้งหาย ๕ครั้งหาย เรื่องนี้ผู้นวดต้องพิเคราะห์พิจารณาจากอะไร
ตอบ อายุของโรคและอายุของผู้ป่วย ประกอบกับผลของการรักษาในแต่ละครั้งที่ทำไปแล้วมีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด
ข้อ28 แนวเส้น และจุดสัญญาณในการรักษามีกี่เส้นและกี่จุดสัญญาณ
ตอบ ๑๐ เส้น และ ๕๐ จุดสัญญาณ
ข้อ29ลมปลายปัตคาตคือ
ตอบ เป็นโรคลมชนิดหนึ่งเกิดจากการแข็งตัวของเลือด สามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เยื่อหุ้มกระดูก ริมหัวต่อกระดูก ยกเว้นตัวกระดูก มีอาการปวดเสียว อาจมีบวม แข็งเป็นก้อน เป็นลำ หรือไม่บวมก็ได้ ไม่มีความร้อน หรืออาจมีความร้อนเล็กน้อยก็ได้
ข้อ30 ลมลำบองคือ
ตอบ เป็นโรคลมชนิดหนึ่งเกิดจากอาหารและอากาศ มักจะเกิดเป็นกับหัวข้อต่อกระดูกเท่านั้น สามารถเป็นได้กับทุกหัวข้อต่อกระดูกทั่วร่างกาย หัวข้อต่อกระดูกในตำแหน่งที่ลมลำบองนี้ไปเกาะจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน ปรากฏให้เห็น ลักษณะอาการทั่วไปจะคล้ายกับลมจับโปง ถ้าเกิดที่ข้อเข่า และข้อเท้าจะเป็นเฉพาะที่ด้านใดด้านหนึ่งของข้อเท้านั้น ถ้ามีอาการปวดมากคนไข้อาจมีอาการจับไข้ร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่าไข้ลมลำบอง และลักษณะการบวมจะมีน้ำชนิดข้นๆเป็นเมือกเกาะอยู่ตามตำแหน่งที่บวมนั้น
ข้อ31ลมจับโปงคือ
ตอบ เป็นโรคลมชนิดหนึ่งเกิดจากอาหาร อากาศ และน้ำ และเป็นเฉพาะข้อเข่า กับข้อเท้าเท่านั้น ลมจับโปงมีสองชนิด คือ ลมจับโปงแห้ง และลมจับโปงน้ำ
ข้อ32 ลักษณะอาการของลมจับโปงน้ำคือ
ตอบ มีอาการบวม ปวด แดง ร้อน และมีน้ำ(ใส)ในข้อ ขณะที่บวมและอักเสบจะมีความร้อนขึ้นเสมอ สามารถทำให้เป็นไข้ได้ เรียกว่าไข้จับโปง ไข้มักจับเป็นบางเวลา พบกำเริบในฤดูฝน ซึ่งอากาศมักจะร้อนอบอ้าว และมีหนาวเจือปนมา
ข้อ33 ลักษณะอาการของลมจับโปงแห้งคือ
ตอบ มีอาการบวมและความร้อนไม่มากนัก บางครั้งแดงเล็กน้อย แต่จะมีสภาวะหัวเข่าติด ขาโก่ง สะบ้าเจ่า อาการปวดน้อยกว่าลมจับโปงน้ำ และมีน้ำ(ใส)ในข้อเล็กน้อย และมักเป็นมาจากโรคลมจับโปงน้ำที่ไม่ได้รักษาให้หาย
ข้อ34 วิธีแยกโรคลมจับโปงน้ำและลมจับโปงแห้งด้วยการทาปูน
ตอบ ลมจับโปงน้ำ ปูนที่ทาไว้จะเป็นน้ำเยิ้มทั้งเข่า ลมจับโปงแห้ง ปูนที่ทาไว้จะแห้ง
ข้อ35 อาการปวดตึงกล้ามเนื้อบริเวณบ่า คอ และ สะบัก มีอาการปวดร้าวชาแขนด้านนอกและนิ้วมือ หายใจไม่เต็มที่ร่วมด้วย ขัดยอกหน้าอก
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตสัญญาณ 4 หลัง
สาเหตุ เกิดจากการแข็งตัวของเลือดบริเวณกล้ามเนื้อบ่า และ สัญญาณ 4 หลัง เนื่องจาก 1. ความเครียด การท างานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ 2. ท่าทางอิริยาบถต่าง ๆ ไม่ถูกต้อง 3. ความเสื่อมของตัวกระดูกคอ และจากอุบัติเหตุ
วิธีการรักษา 1. นวดพื้นฐานบ่าข้างที่เป็น 2. นวดสัญญาณ 4,และ5 หลัง เน้นสัญญาณ 4 3. นวดสัญญาณ 4 หัวไหล
ข้อ36มีอาการปวดกล้ามเนื้อบ่าและต้นคอ บางครั้งมีอาการมึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ กระบอกตา ร้าวชาออกแขนด้านใน
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตสัญญาณ 5 หลัง
สาเหตุ เกิดจากการแข็งตัวของเลือดบริเวณกล้ามเนื้อบ่า และ สัญญาณ 5 หลัง เนื่องจาก 1. ความเครียด การท างานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ 2. ท่าทางอิริยาบถต่าง ๆ ไม่ถูกต้อง 3. ความเสื่อมของตัวกระดูกคอและจากอุบัติเหตุ
วิธีการรักษา 1. นวดพื้นฐานบ่าข้างที่เป็น 2. นวดสัญญาณ 4, 5 หลัง เน้นสัญญาณ 5 3. นวดสัญญาณ 4 หัวไหล
ข้อ37 คอแข็ง ทรงศีรษะไม่อยู่ กล้ามเนื้อต้นคอไม่มีกำลัง ก้ม-เงย หรือเอียงคอ มีอาการตึง ปวดต้นคอ ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ตากระตุก หูอื้อ อาจพบขัดยอกที่ข้อต่อหัวไหล่ หรือโรคหัวไหล่ติดร่วมด้วย ปวดชาต้นแขน ชาปลายนิ้ว
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตเส้นโค้งคอ สาเหตุ
1.เกิดจากท่าทางอิริยาบถไม่ถูกต้อง เช่น นั่งคอเอียง คอไม่ตรง 2.ความเครียดของกล้ามเนื้อต้นคอ 3.ความเสื่อมของกระดูกต้นคอ
วิธีการรักษา
1. นวดพื้นฐานบ่าข้างที่เป็น 2. นวดสัญญาณ 4,5 หลัง 3. นวดเส้นโค้งคอ 4. นวดหัวไหล่สัญญาณ 4
ข้อ38 มีอาการปวดเมื่อยที่ต้นคอ บางรายคอแข็ง เวลาหันหน้าต้องหันไปทั้งตัว และรู้สึกปวดร้าวที่ต้นคอ กล้ามเนื้อที่บริเวณบ่า คอ ตึงแข็งเกร็ง มักมีอาการข้างเคียง คือปวดศีรษะร่วมด้วย เวลาเงยและก้มหน้ามีอาการขัดและเสียวร้าว ยออกหน้าอก ร้าวสะบัก และหัวไหล่ได้ ไม่มีอาการชาลงแขน
ตอบ โรคคอตกหมอน
วิธีการรักษา
1. นวดพื้นฐานบ่าข้างที่เป็น 2. นวดสัญญาณ 4,5 หลัง เน้นสัญญาณ4และ5บน 3. นวดจุดฐานคอ และโค้งคอ 4. นวดหัวไหล่สัญญาณ 4
ข้อ39 จรรยาวิชาชีพสาขาการนวดไทย คุณธรรมของหมอนวด (*ข้อสอบกองประกอบออกทุกเทอม)
ตอบ มี 10 ประการ ดังนี้
(1)มีเมตตาจิตแก่คนไข้ ไม่เลือกชั้นวรรณะ
(2)มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
(3)มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป
(4)มีความละเอียดรอบคอบสุขุม
(5)ไม่โลภเห็นแก่ลาภของผู้ป่วยอย่างเดียว
(6)ไม่โอ้อวดวิชาความรู้
(7)ไม่เป็นคนเกียจคร้าน เผอเรอ มักง่าย
(8)ไม่ลุอำนาจแก่อคติ 4
(9)ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งทีเป็นโลกธรรมแปด
(10)ไม่มีสันดานชอบความมัวเมาในหมู่อบายมุข
ข้อ40จริยธรรมของการนวด
ตอบ (1)ยึดถือสุขภาพและความปลอดภัยของผู้นวดเป็นเป้าหมายสูงสุด
(2)ยึดมั่นความซื่อสัตย์
(3)หมั่นศึกษาหาความรู้ในวิชานวด
(4)มีสติสัมปชัญญะ คือ ความนึกคิดที่ต้องการควบคุมสติให้ได้
(5)มีเมตตา คือ ความปรารถนาให้ผู้ถูกนวดเป็นสุข
(6)มีกรุณา คือ ความสงสารต้องการทำให้ผู้ถูกนวดต้องพ้นทุกข์
(7)มีมุทิตา คือ ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
(8)มีอุเบกขา คือ การวางเฉยไม่ดีใจ ไม่เสียใจเมื่อผู้อื่นทำดี หรือถึงความวิบัติ
(9)มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ
(10)เก็บรักษาความลับของผู้ถูกนวด
(11)ไม่โอ้อวด
(12)ไม่หลอกลวง ลวนลามผู้ถูกนวด
(13)ไม่มัวเมาในอบายมุข
ข้อ41 ปวดศีรษะ ปวดขมับ ปวดเบ้าตา หรือปวดกระบอกตา ปวดแบบตุ๊บๆ หรืออาจแบบตื้อๆ เป็นข้างเดียว หรืออาจเป็นสลับข้างกัน หรืออาจเป็นทั้งสองข้างก็ได้ หน้าแดง ตาพร่า เห็นแสงระยิบระยับ มักจะมีอาการเป็นชั่วโมง หรือเป็นตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง บางครั้งพบว่าปวดตลอดวัน และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น ปวดศีรษะมีความดันโลหิตสูง หรือมีไข้ หรือมีอาเจียนร่วมด้วย
ตอบ โรคลมปะกัง
ข้อ42 ลมปะกังเทียบเคียงกับโรคหรืออาการทางแผนปัจจุบันคือ
ตอบ ไมเกรน
ข้อ43 โรคลมปะกังมีกี่ชนิด
ตอบ สองชนิด คือชนิดอาเจียน และชนิดไม่อาเจียน
ข้อ44โรคลมปะกังชนิดอาเจียนโบราณ ว่าสาเหตุมาจาก
ตอบ น้ำเลี้ยงขึ้นสมองแล้วไม่กลับลงมา
ข้อ45 อาการเคลื่อนไหวใบหน้าทั่วๆไปไม่ได้ เช่น ยักคิ้วไม่ได้ หลับตาไม่ลง ไม่มีรอยย่นบนหน้าผาก บางครั้งหน้าบวมซีกหนึ่งข้างที่เป็น และถ้าเป็นนานหน้าจะลีบ ปากเบี้ยว มุมปากตก ทำให้น้ำลายไหลออกมา ลิ้นชาครึ่งซีกข้างที่เป็น พูดไม่ชัด หุอื้อ หรือมีเสียงในหู
ตอบ โรคอัมพาตใบหน้า
ข้อ46 โรคอัมพาตใบหน้าโรคแผนปัจจุบันเรียกว่า
ตอบ bell pulsy
ข้อ47 โรคลมปราบ คือ
ตอบ โรคทางโบราณถือว่ามาจากลมเพลมพัด หรือถูกของ และเป็นโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ พบได้ที่กล้ามเนื้อ แขน ขา หลัง และหน้าอก
ข้อ48 จุดสัญญาณบังคับในการนวดแก้โรคลมปราบแขน
ตอบ สัญญาณหนึ่งแขนด้านนอก และสัญญาณสองแขนด้านใน
ข้อ49 จุดสัญญาณบังคับในการนวดแก้โรคลมปราบขา
ตอบ สัญญาณหนึ่งขาด้านนอก และสัญญาณสองขาด้านใน
ข้อ50 เกิดจากอุบัติเหตุ ทันทีทันใด โดนกระชาก แขนและหัวไหล่ มักมีอาการเจ็บปวดที่หัวไหล่ด้านหน้า บวม แดง ร้อนที่หัวไหล่ด้านหน้า เคลื่อนไหวมุมปกติไม่ได้ ยกชูแขนไม่ขึ้น ชูแขนชิดหูไม่ได้ เท้าสะเอวและมือไพล่หลังไม่ได้องศา ใช้มือแตะหัวไหล่ด้านตรงข้ามไม่ได้ เสยผมไม่ได้
ตอบ โรคหัวไหล่เบี่ยง
ข้อ51โรคสันนิบาตมีกี่ชนิด
ตอบ สามชนิดคือ 1สันนิบาตหนังตาตก 2สันนิบาตตีนตก 3สันนิบาตข้อมือตก
ข้อ52อาการยอกหลังมีกี่ชนิด
ตอบ สองชนิด คือ ยอกหลังเดี่ยว กับ ยอกหลังคู่(ยอกสะดุ้ง)
ข้อ53 ปวดเสียว ขัด ยอก บริเวณบั้นเอว และกล้ามเนื้อหลัง หันตัวไม่ถนัด เดินตัวแข็ง เวลาไอหรือจามจะเสียวแปล๊บ เจ็บร้าวมาที่หลัง มาหน้าท้องข้างที่เป็น แต่ไม่มีอาการร้าวชาไปขา
ตอบ ยอกหลังเดี่ยว
ข้อ54ปวดเสียว ขัด ยอก บริเวณบั้นเอว และกล้ามเนื้อหลังทั้งสองข้าง โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนอิริยาบถ จากนอนจะลุกนั่ง หรือจากนั่งเป็นยืน เวลาไอหรือจามจะเสียวแปล๊บไปที่กล้ามเนื้อหลังทั้งสองข้าง จะเจ็บเสียวจนสะดุ้งตัวจะงอเป็นกุ้งบางครั้ง เหงื่อออกจนตัวเย็นซีด และเวลาเดินหลังไม่ตรง ต้องเดินหลังค่อม
ตอบ ยอกหลังคู่
ข้อ55อาการยอกหลังนวดอย่างไร
ตอบ นวดเหมือนโรคสัญญาณสามหลัง จุุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 3-2-1
สัญญาณท้องเน้น 3(ขวา) และ 4(ซ้าย)แล้วแต่อาการ
ข้อ56โรคอัมพาต มีกี่ชนิด
ตอบ ห้าชนิด ตือ อัมพาตครึ่งซีก อัมพาตครึ่งท่อนล่าง อัมพาตทั้งตัว อัมพาตเฉพาะแขน อัมพาตเฉพาะขา
ข้อ57 โรคอัมพาต และโรคอัมพฤกษ์ ต่างกันอย่างไร
ตอบ อัมพาตนั้นจะต้องมีการเคลื่อนหลุดของหัวต่อกระดูกจากเบ้าเสมอ เห็นได้ที่หัวไหล่ และสะโพก
ถ้าหัวต่อกระดูกไม่เคลื่อนไม่หลุดจะเรียกว่า อัมพฤกษ์
ข้อ58อาการปวดหลัง ร้าวชามาที่ขา ปลีน่อง ฝ่าเท้า และนิ้วเท้า ทำให้ขาไม่มีแรง เวลาวัดส้นเท้าข้างที่เป็นจะยาวกว่าข้างที่เป็นปกติ
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตสัญญาณ สาม หลัง จุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 3-2-1
ข้อ59 ปวดหลังบริเวณบั้นเอวหรือกระเบนเหน็บ อาจพบอาการเสียวร้าวชาไปที่สะโพก ก้นย้อย ลงมาถึงหัวเข่า เวลาเดินเข่าเปลี้ย เข่าทรุด เข่าไม่มีกำลัง ปวดใต้หัวเข่า แต่อาการปวดจะไม่เลยเข่า เวลาวัดส้นเท้าข้างที่เป็นจะสั้นกว่ากว่าข้างที่เป็นปกติ
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตสัญญาณ หนึ่ง หลัง จุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 1-3-2
ข้อ60โรคลมลำบองสัญญาณ1และ3หลัง แตกต่างกับโรคลมปลายปัตคาตสัญญาณ1และ3หลังอย่างไร
ตอบ ทดสอบโดยการทาปูน ถ้าลำบอง ปูนที่ทาจะเยิ้มไม่แห้ง
ข้อ61มีอาการปวดบวมแดงร้อน ที่เข่ามากและเป็นทั้งข้อเข่า บางคนอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย เวลาวัดส้นเท้าข้างที่เป็นจะสั้นกว่ากว่าข้างที่เป็นปกติ
ตอบ โรคลมจับโปงน้ำเข่า จุดเน้นสัญญาณ 4ขาด้านอก และ สัญญาณ3และ4ขาด้านใน
ข้อ62มีอาการปวดบวมแดงร้อน ที่เข่าเพียงเล็กน้อย แต่จะมีสภาวะเข่าติด ขาโก่ง นั่งยองๆไม่ได้ ขณะเดินในเข่าจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ อาการปวดมากตอนก้าวขึ้นบันได เวลาวัดส้นเท้าข้างที่เป็นจะสั้นกว่ากว่าข้างที่เป็นปกติ
ตอบ โรคลมจับโปงแห้งเข่า จุดเน้นสัญญาณ 4ขาด้านอกพร้อมเขยื้อนข้อเข่า และ สัญญาณ3และ4ขาด้านในพร้อมเขยื้อนข้อเข่า
ข้อ63 อาการปวดส้นเท้าโดยเฉพาะเวลาตื่นนอนตอนเช้า เวลาเดินจะเจ็บที่ส้นเท้า อาการจะเป็นมากจะเจ็บตลอดเวลา เดินกระเผลก บางครั้งอาจมีอาการปวดร้าวไปที่ขอบเท้าและเอ็นร้อยหวาย ข้างที่เป็นมีกำลังถีบเท้าน้อยกว่าข้างปกติ
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตส้นเท้า
ข้อ64 ข้อเท้ามีอาการปวดบวมแดงร้อน มีน้ำในข้อ ถ้าอาการปวดรุนแรงจะทำให้เป็นไข้ร่วมด้วย ทาปูนทดสอบแล้วพบว่าปูนเยิ้มไม่แห้ง
ตอบ โรคลมจับโปงน้ำข้อเท้า
ข้อ65หลังจากข้อเท้าลดอาการบวมลง จะมีอาการ ปวด บวมแดงร้อนเล็กน้อย แต่มีอาการข้อเท้าติด กระดกและเหยียดข้อเท้าได้น้อยกว่าข้างที่เป็นปกติ และมีเสียงเวลาเดิน ข้อเท้าข้างที่เป็นมีลักษณะผิดรูปเมื่อเปรียบเทียบกับข้างที่ปกติ
ตอบ โรคลมจับโปงแห้งข้อเท้า
ข้อ66ข้อเท้าแพลงมีกี่ตำแหน่ง
ตอบ สามตำแหน่ง คือ 1ด้านหน้าข้อเท้า 2ด้านนอกข้อเท้า 3ด้านตาตุ่มด้านใน(พบไม่บ่อยแต่รุนแรง)
ข้อ67ข้อเท้าแพลงมีกี่ระดับ
ตอบ สามระดับ คือ 1.ระดับที่หนึ่ง กล้ามเนื้อพลิก เอ็นข้อต่อยืด มักหายเองภายในเจ็ดวัน 2ระดับที่สอง มีการฉีกขาดของเอ็นเนื้อเยื่อข้อเท้าทั้งเจ็ดชิ้น ข้ออาจเคลื่อน ลักษณะเด่น มีบวม แดง ห้อเลือด เป็นทันทีหลังข้อเท้าพลิก 3ระดับที่สาม มักจะพบในข้อเท้าแพลงด้านใน มีกระดูกหักร่วมด้วย ยืนรับน้ำหนักตัวเองไม่ได้ มีห้อเลือด และรอยกระดูกหักชัดเจน (ต้องส่งต่อโรงพยาบาล)
ข้อ68 ข้อเท้าไม่มีกำลัง ข้อเท้าอ่อนแรง เวลาเดินจะสะดุดพื้น เพราะไม่สามารถกระดกปลายเท้าขึ้นและลงได้ บางรายมีอาการบวมร่วมด้วย แต่ไม่มีอาการชา ข้อเข่าและข้อสะโพกเป็นปกติ และเท้าข้างที่เป็นมักเป็นโรคลมจับโปงข้อเท้ามาก่อนแต่ไม่ได้รักษาให้หาย
ตอบ โรคสันนิบาตตีนตก (อาจเป็นข้างเดียว หรือเป็นทั้งสองข้างก็ได้)
ข้อ69โรคมดลูกเคลื่อนมีกี่ชนิด
ตอบ สามชนิดคือ 1 มดลูกตะแคง(มีตกขาวไม่มีกลิ่นและสี) 2มดลูกด่ำ(กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เวลาไอหรือจาก หัวเราะ ยกของหนัก ก้าวขึ้นลงบันไดป้สสาวะเล็ด) 3มดลูกลอย(มีอาการผายลมทางช่องคลอด)
ข้อ70อาการร่วมที่เหมือนกันของมดลูกด่ำ มดลูกตะแคง และ มดลูกลอย หรือเรียกรวมๆกันว่าโรคมดลูกเคลื่อนมีอะไรบ้าง
ตอบ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดท้องน้อย ปวดกระเบนเหน็บ เย็นปลายมือปลายเท้า มีอาการตึงคอ
ข้อ71จุดสัญญาณและท่านวดบังคับเฉพาะโรคมดลูกเคลื่อน
ตอบ นวดเหมือนโรคสัญญาณหนึ่งหลัง จุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 1-3-2และสัญญาณ1และ2ท้อง และท่าฝืนมดลูก
ข้อ72เกิดกับหญิงวัยมีประจำเดือน จะมีอาการปวดเอว ปวดหลัง ปวดก้านคอ ชาปลายมือปลายเท้า มือเท้าเย็นชาไม่มีกำลัง ใจหวิว ใจสั่น ขี้ร้อนขี้หนาว เหงื่อออกง่าย ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มาไม่สม่ำเสมอ เป็นลิ่มเป็นก้อน มีสีแดงคล้ำจนดำ และมีก้อนแข็งที่ขั้วมดลูก กินของเย็นมีอาการร้อนคอและจุกอก กินของเผ็ดร้อนทำให้มีอาการทุรนทุราย กระสับกระส่ายไม่สบายตัว นอนไม่หลับเบื่ออาหาร คลำที่บริเวณท้องน้อยต่ำกว่าสะดือหนึ่งนิ้วจะพบก้อนเท่าไข่แดงอยู่ตรงกลาง หรืออาจพบใหญ่กว่าก็ได้
ตอบ โรคดานเลือด จุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 1-3-2 และสัญญาณ1และ2ท้องและท่าฝืนมดลูก
ข้อ73มีอาการท้องผูกเป็นประจำ ท้องแข็งเป็นลำ พบก้อนเป็นเถาดานพรรดึกบริเวณท้องเหนือสะดือซ้ายขวา หรือตรงกลาง อุจจาระแข็งเหมือนขี้แพะ มีอาการใจหวิว ใจสั่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับเวลาดึกๆ หรือเช้ามืด อากศเย็นทำให้ตื่นมาไอ ทำให้เหนื่อย เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แจ่มใส ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดหลังเป็นประจำ ชาปลายมือปลายเท้า และเย็นเหมือนเป็นเหน็บ
ตอบ โรคดานลม ท่านวดบังคับคือนวดท่าโกยท้อง
ข้อ74ลักษณะขึ้นเป็นผื่นสีแดง เป็นจ้ำแดงหรือเขียวก็ได้ ปรากฏตามผิวหนัง อาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย เกิดกับผู้สูงอายุที่หลอดเลือดเปราะ และผู้หญิงก่อนมีรอบเดือน
ตอบ โรคพรายเลือด นวดเหมือนโรคสัญญาณหนึ่งหลังจุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 1-3-2
ข้อ75ลักษณะผื่นสีแดง หรือจ้ำสีแดงเข้มหรือสีม่วงก็ได้ ปรากฏตามผิวหนัง อาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนและมีอาการคันร่วมด้วยบ้างเล็กน้อย เกิดกับผู้สูงอายุที่หลอดเลือดเปราะ และผู้หญิงก่อนมีรอบเดือน
ตอบ โรคพรายย้ำ นวดเหมือนโรคสัญญาณหนึ่งหลังจุดเน้นสัญญาณหลังและขาด้านนอก และขาด้านในคือ 1-3-2
ข้อ75โรคสมรรถภาพทางเพศ การนวดรักษาในเพศชายเรียกว่า
ตอบ นาคราชคืนชีพ
ข้อ76 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ความต้องการทางเพศลดลง
ตอบ โรคสมรรถภาพทางเพศ
ข้อ77การนวดโรคสมรรถภาพทางเพศ นวดอย่างไร
ตอบ การนวดแนวเส้นพื้นฐาน และจุดสัญญาณทั้งตัวเพื่อให้เลือดลมทั่วร่างกายไหลเวียนสะดวกเป็นปกติ
ข้อ78สาเหตุ โรคสมรรถภาพทางเพศ
ตอบ 1ด้านจิตใจ กำลังใจ เนื้อคู่ไม่สวยสมใจ สภาวะเศรษฐกิจ ความเครียด 2หัว(ระบบสูบฉีดเลือด)ไม่แข็งแรง 3ปริมาณเลือดในร่างกาย( ภาวะเลือดข้น หรือเป็นตะกอนง่าย) 4จากรับประทานยาบางชนิดต่อเนื่อง เช่น โรคความดัน โรคกระเพาะ และการสูบบุหรี่ อุบัติเหตุ หรือหกล้มกระทบกระแทกเส้นประสาทบริเวณอุ้งเชิงกราน 6.ฮอร์โมนเพศหมด หรือไม่มี
ข้อ79ปวดขัดในสะโพก เดินไม่ถนัด รับน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ บางครั้งอาจมีร้าวชาปวดตรงก้นย้อยร้าวไปที่ต้นขา บางครั้งอาจมีอาการคล้ายโรคสัญญาณหนึ่งหลัง นอนกอดเข่าชิดอกไม่ได้ พบว่าความแข็งบริเวณสัญญาณสามขาด้านนอก
ตอบ โรคข้อสะโพกเบี่ยง
ข้อ80 เกิดจากอุบัติเหตุ ลื่นหกล้ม ตกบันได ทำให้ปวดหัวเข่า โดยเฉพาะหัวเข่าด้านใน จะปวดตึ๊บๆ ไม่สามารถงอขาชิดก้นได้ เหบียดขาไม่ตรง เดินรับน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ เดินขากระเผลก
ตอบ โรคหัวเข่าเบี่ยง
ข้อ81มีอาการตาปรือลืมตาไม่ขึัน กล้ามเนื้อหนังตาไม่มีกำลัง เหมือนเป็นอัมพาตที่เปลือกหนังตาอาจเป็นข้างเดียวหรือเป็นทั้งสองข้างก็ได้ และถ้าเป็นแค่ด้านขวาด้านเดียวเรานวดสัญญาณศีรษะหน้าอย่างไร
ตอบ โรคสันนิบาตหนังตาตก ถ้าเป็นตาขวา ให้นวดจุดสัญญษร 1ศีรษะด้านหน้า ...แต่ถ้าเป็นตาซ้ายให้นวดสัญญาณ2ศีรษะด้านหน้า
ข้อ82 ข้อมือไม่มีกำลัง กระดกข้อมือขึ้นลงไม่ได้ข้อมือมีอาการบวม ชาเจ็บเสียวในข้อมือและนื้วมือ ขยับนิ้วมือไม่ได้ อาจเป็นข้างเดียวหรือเป็นทั้งสองข้างก็ได้
ตอบ โรคสันนิบาตข้อมือตก
ข้อ83 กล้ามเนื้อน่องจะแข็งเป็นก้อน เป็นลำ ปวดตรงบริเวณน่องเหมือนถูกทุบหรือถูกขยุ้มอย่างแรง ปลายเท้าจะเหยียดตรงแต่กระดกขึ้นลงไม่ได้ การเคลื่อนไหวขา หัวเข่า และข้อเท้า ไม่สะดวกหรือทำไม่ได้เลย
ตอบ ตะคริวน่อง ท่านวดบังคับ คือ นวดแนวเส้นกึ่งกลางน่อง
ข้อ84 ยกแขนไม่ขึ้น ปวดเจ็บเสียวบริเวณหัวไหล่ร้าวลงไปแขน และขึ้นศีรษะ กล้ามเนื้อบ่าข้างที่เป็นจะเกร็งตึง องศาการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ในมุมต่างๆจะถูกจำกัด อาจพบเป็นแบบเฉียบพลันหลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ หรือเป็นแบบเรื้องรัง ค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ เกิดพังผืด ทำให้หัวไหล่มีหินปูนเกาะ อาจพบข้อหัวไหล่มีเสียงดังขณะเคลื่อนไหว
ตอบ โรคหัวไหล่ติด ....ถ้าเป็นนานกว่าหกเดือนจะเป็นโรคหัวไหล่ติดเรื้อรัง
ข้อ85เริ่มปวดบริเวณฝ่ามือ โดยเฉพาะโคนนิ้ว อาจมีบวมอักเสบชัดเจน มีปัญหานิ้วฝืด เหยียดไม่ได้มักเป็นตอนเช้า เวลากำนิ้วมือจะกำไม่เข้า หรือกำด้วยความยากลำบาก จะฝืดมีเสียงดัง เมื่อกำมือเข้ามาได้แล้ว เวลาเหยียดนิ้วมือไม่ค่อยออก บางคนอาจงอค้าง และรู้สึกเจ็บมาก ต้องใช้มืออีกข้างแกะออก ถ้ามีอาการมากๆจะเกิดภาวะนิ้วมือนั้นงอแข็ง กำเหยียดไม่ได้ บางคนอาจมีอาการปวดชาร่วมด้วย มัดเกิดกับอาชีพแม่บ้าน หิ้วของหนักนานๆ ซักผ้าบิดผ้า เป็นต้น
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตนิ้วมือ หรือ โรคนิ้วไกปืน....ในเด็กเล็กมักพบบ่อยที่นิ้วโป้ง
ข้อ86 ข้อมือมีอาการฝืด ปวด ตึง และร้าวชาบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ นิ้วมือ นิ้วมือไม่มีกำลัง
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตข้อมือ .....หากไม่รักษาให้หายปล่อยเรื้อรังจะกลายเป็นโรคสันนิบาตข้อมือตก
ข้อ87โรคลมปลายปัตคาตข้อมือ จุดเน้นสัญญาณ
ตอบ สัญญาณ 4และ5แขนด้านใน และสัญญาณแยกข้อมือ
ข้อ88นายป้อมมีอาชีพขายเนื้อหมูสดมีอาการปวดที่ข้อศอก ร้าวไปหัวไหล่ และปวดร้าวลงไปที่แขน ข้อมือ นิ้วมือ เวลากำมือ บิดมือ คว่ำมือ จะเจ็บที่ร้าวข้อศอก
ตอบ โรคลมปลายปัตคาตข้อศอก.......จุดเน้นสัญญาณ2และ3แขนด้านใน และสัญญาณ3และ4แขนด้านนอก
เกี่ยวกับจุดสัญญาณ
1.สัญญาณ5หลัง ระหว่างกระดูกหลัง ซี6 กับซี7 บนกล้ามเนื้อทราพิเซียส
2.สัญญาณ4หลัง ระหว่างกระดูกหลัง ซี7 กับ ที1 บนกล้ามเนื้อทราพิเซียส
3.สัญญาณ3หลัง ระหว่างกระดูกหลัง แอล2 กับ แอล3 บนร่องกล้ามเนื้อมัลติฟิด้ส
4.สัญญาณ1หลัง ระหว่างกระดูกหลัง แอล4 กับ แอล5 บนร่องกล้ามเนื้อมัลดิฟิดัส
5.สัญญาณ1 ขาด้านใน บนกระดูกฟีเมอร์ บนกล้ามเนื้อเซมิเมมเบรโนสัส
6.สัญญาณ2 ขาด้านใน บนกระดูกฟีเมอร์ บนกล้ามเนื้อแอดดักเตอร์ แม็กนัส
7.สัญญาณ3 ขาด้านใน บนกระดูกฟีเมอร์ บนกล้ามเนื้อ วาสตัสมีเดียลลิส และกล้ามเนื้อซาโตเรียส
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น